ทรภ.2 จัด ‘รล.คลองใหญ่’ ช่วยลูกเรือประมงบาดเจ็บสาหัสกลางอ่าวไทย เร่งนำตัวส่ง รพ.
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับการประสานจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 (ศรชล.ภาค 2) ขอรับการสนับสนุนเรือในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บกลางทะเล ภายหลังได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทร จ.สงขลา ว่าเรือวัฒนาสมุทร 19 ซึ่งเป็นเรือประมง ประเภทเครื่องมืออวนลาก ประสบเหตุลูกเรือประมงชื่อนายทินกร คงขำ อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บระหว่างทำการประมง มีอาการแน่นหน้าอก โดยขณะที่แจ้งนั้น เรืออยู่ในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง ระยะ 110 ไมล์ทะเล จากปากร่องน้ำสงขลา เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
จากนั้น พล.ร.ท.พิจิตร ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้จัด เรือหลวงคลองใหญ่ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกเรือเพื่อทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดแพทย์จากโรงพยาบาลฐานทัพเรือสงขลา มาประจำการ ณ ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อให้คำแนะนำกับทางเรือในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกันนี้ได้ประสานญาติผู้บาดเจ็บ รวมถึงศูนย์นเรนทร จังหวัดสงขลา เพื่อจัดเตรียมรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาลเตรียมความพร้อมที่ท่าเทียบเรือเพื่อให้การช่วยเหลือ
โดยเมื่อเรือหลวงคลองใหญ่สามารถติดต่อเรือวัฒนาสมุทร 19 ได้ จากการตรวจอาการในเบื้องต้น พบว่าผู้ป่วยยังมีอาการแน่นหน้าอก แต่ทุเลาลง สามารถพลิกตัวได้ สื่อสารได้ และยังตรวจพบว่ามีบาดแผลที่ศีรษะประมาณ 1 เซนติเมตร จึงได้รีบนำผู้ป่วยกลับเข้าฝั่ง จนกระทั่งเวลา 02.30 น. ของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 เรือหลวงคลองใหญ่ ได้เดินทางเข้าเทียบท่าเรือ ฐานทัพเรือสงขลาทัพเรือภาคที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
จากนั้น รถพยาบาลที่จอดเตรียมความพร้อม ณ ท่าเรือ จึงได้นำผู้ป่วยส่งเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงขลา โดยผลการตรวจในเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยมีอาการเลือดออกบรืเวณเยื่อหุ้มสมองด้านขวาปริมาณน้อย กระดูกโหนกแก้มด้านซ้ายแตก กระดูกเบ้าตาด้านซ้ายแตก ปอดซ้ายแตกเล็กน้อย กระดูกเชิงกรานด้านล่างแตกแบบไม่ผิดรูป และพบแผลฉีกขาด บริเวณหนังศีรษะ ขนาดยาว 10 เซนติเมตร คณะแพทย์จึงได้ทำการวางแผนเพื่อให้การรักษาต่อไป
สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในภารกิจที่กองทัพเรือให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมากองทัพเรือและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้ลงนามความร่วมมือว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเล เพื่อคุ้มครองสิทธิการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชน ทั้งในภาวะปกติและภาวะสาธารณภัย ตลอดจนเพื่อร่วมบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการบริหารกองทัพเรือของ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กล่าวว่า “จะดูแลความความมั่นคงทางทะเล ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย และนำยุทโธปกรณ์สนับสนุนรัฐบาล ขับเคลื่อนประเทศให้เจริญรุ่งเรือง” ท้้งนี้ กองทัพเรือจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจะปกป้องอธิปไตยทางทะเลไทยต่อไป