ตร.นำผู้ต้องสงสัยก่อเหตุสยอง ฆ่าตัดคอหนุ่มใหญ่เค้นสอบ ลูกชายเชื่อคนร้ายคลั่งลัทธิ-ติดยาระดมค้นหาศีรษะยังไม่พบ
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้มีดสปาต้าก่อเหตุฆ่าตัดศรษะนายเสงี่ยม อายุ53 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อดีตลูกเขยที่พักอาศัยอยู่บ้านแม่ยาย หมู่ 1 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และนำส่วนศีรษะไปด้วย เมื่อวันที่ 11 พ.ย.66 นั้น
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้มุ่งไปที่พฤติกรรมตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุ เนื่องจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งการเรียกตัวพยานและผู้ใกล้ชิดมาสอบสวน ยังไม่พบว่านายเสงี่ยม มีความขัดแย้งกับใคร หรือแม้กระทั่งเรื่องชู้สาว ทำให้การทำงานของตำรวจแคบลง และเร่งสืบสวนในกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีปัญหาทางสมองอันเนื่องมาจากการใช้สารเสพติดในละแวกใกล้เคียงที่ได้นำตัวมาสอบปากคำ
พ.ต.อ.ไพศาลกล่าวว่า ล่าสุด ได้นำตัวบุคคลเป้าหมายในพื้นที่ที่มีพฤติกรรมทางจิตเวชเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด จำนวน 4 ราย มาซักถามปากคำและตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็น เพื่อไปเปรียบเทียบกับของคนร้ายที่จัดเก็บได้จากมีดสปาต้าในที่เกิดเหตุหาความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องการสืบสวนดำเนินคดี
วันเดียวกัน ที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำบุคคลที่ไปมาหาสู่และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 ราย และกำลังตำรวจอีกชุดเดินทางไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับลัทธิไสยศาสตร์บางอย่าง จึงนำตัวพร้อมรถจักรยานยนต์มาสอบปากคำ โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง นอกจากนี้ ชุดสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้าน ออกค้นหาศีรษะของนายเสงี่ยม ตามบ่อดินลูกรัง 4-5 แห่ง ที่สงสัยคนร้ายอาจนำไปทิ้งอำพราง แต่ยังไม่พบและต้องยุติการค้นหาเนื่องจากอุปสรรคมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
นายไพศาล สองวิหค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสยองขวัญและเป็นเรื่องสะเทือนใจต่อคนในพื้นที่อย่างมาก ส่วนผู้ก่อเหตุยังพูดไม่ได้ว่าเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ต้องให้ตำรวจสืบสวน แต่คงไม่ใช่คนไกล และต้องรู้ความเคลื่อนไหวของนายเสงี่ยม นอกจากนี้ เรื่องการบำเพ็ญกุศลศพได้รับการประสานจากญาติทางภาคอีสานของผู้เสียชีวิต แต่เนื่องจากผู้ตายมีบุตรอยู่ที่นี่ 1 คน และทางวัดเขาแก้ว จะอนุเคราะห์จัดงานบำเพ็ญกุศลให้ถึงแม้ว่าจะยังหาศีรษะไม่พบ แต่ทางพิธีกรรมสามารถทำได้
ด้านนายเอ็ม อายุ 18 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตอนแรกทราบว่าพ่อเสียชีวิตคิดว่าพ่อเป็นลมแต่เมื่อไปพบว่า พ่อถูกฟันศีรษะรู้สึกตกใจมาก และไม่คิดว่าพ่อจะมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับใคร เนื่องจากทำงานรับเชื่อมทำเหล็กแทงปาล์ม และกินเหล้าไม่ได้สุงสิงกับใครที่จะเกิดปัญหาทะเลาะวิวาทถึงกับฆ่าตัดคออย่างนี้ จึงคิดว่าเป็นเรื่องของความเชื่อทางลัทธิ หรือพวกที่เสพยาเสพติด
