จับแล้วทัพเรือภาค 2 จับเรือประมงเวียดนาม 1 ลำหลังมีข่าวเรือเวียดนามนับร้อยเข้าทำมาหากินในน่านน้ำไทย
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 พล.ร.ต.สุรเชษฎ์ ถาวรขจรศิริ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนามที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย ภายหลัง ศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 149 ระยะ 38.6 ไมล์ จากเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายใน พล.ร.ท.พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผอ.ศรชล.ภาค 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงเทพา ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. เรือหลวงเทพา ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประเภทคราดปลิง จำนวน 1 ลำ มีผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 5 คน จากบริเวณที่ได้รับแจ้งกำลังลักลอบทำการประมงโดยการคราดปลิงทะเล จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมด มาทำการสอบสวน ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา กองทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ดังนี้ 1.ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 10) 2.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558) และ 3.ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482)
ทั้งนี้ การปฏิบัติดังกล่าว ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลร่วมกับกองทัพเรือภาคที่ 2 ในการประสานการปฏิบัติ ตั้งแต่ด้านการข่าว และจัดกำลังทางเรือ และอากาศนาวี ลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติ เพื่อเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จนประสบความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้
พล.ร.ต.สุรเชษฎ์กล่าวว่า สำหรับการปรากฏข่าวสารในโซเชียล ที่แจ้งว่า มีเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทย จำนวนกว่า 100 ลำ เพื่อลักลอบทำการประมงนั้น ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบ พบว่า เรือที่ลักลอบ ไม่ได้มีจำนวนมาก ตามที่ได้นำเสนอทางสื่อ ตรวจพบเพียงจำนวนน้อยมาก แต่ขณะเข้าจับกุม มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว และขัดขืนการจับกุมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด