ทอง ไม่หยุดนิวไฮ ทะลุ 34,000 บาท YLG แนะเปิดสถานะซื้อหลังยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

วายแอลจีแนะสายฟิวเจอร์สเปิดสถานะซื้อ รับเทรนด์ทองคำกลับมาท็อปฟอร์ม หลังเห็นแนวโน้มเฟดลดอัตราดอกเบี้ย ลุ้นนิวไฮ 2,200 ดอลล์ต่อทรอยออนซ์ หากดอกเบี้ยขาลงจริง ทองคำขาขึ้นยาว 3-5 ปี ระยะสั้นแนะเปิดสถานะซื้อหากยืนเหนือ 2,032 ดอลล์ต่อออนซ์ ทองไทยทำนิวไฮรอบที่ 5 พุ่ง 34,400 บาทต่อบาททองคำ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับขึ้นมาล่าสุดสามารถยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้อย่างน่าสนใจ เพราะมีจังหวะที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ระดับ 2,052 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ระดับ 2,078 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งการปรับขึ้นของราคาทองคำเป็นการปรับตัวขึ้นรับสถานการณ์เงินเฟ้อที่เริ่มควบคุมได้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ทรงตัวในระดับสูงมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรและเงินเฟ้อเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% จึงมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะผ่อนคลายลง จากถ้อยแถลงนี้ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง และส่งผลดีต่อทองคำ ประกอบกันก่อนหน้านี้ราคาทองคำได้ย่อตัวไปพอสมควรทำให้เป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อสะสมรอรับเทรนด์ขาขึ้นรอบใหญ่ที่คาดว่าช่วงดอกเบี้ยขาลงใน 3-5 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ดีในระยะสั้นที่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาอาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ถ้าหากทองคำสามารถยืนเหนือ 2,018-2,032 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้เป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่วายแอลจี เป็นผู้ให้บริการอยู่นั้น ทั้ง TFEX และตลาด CME ซึ่งเป็นตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ สามารถลงทุนได้ในทุกบริการ เช่น Precious Metal futures, Oil futures, Cryptocurrency futures, Forex futures โดยในการลงทุนตลาดซื้อขายฟิวเจอร์ส วายแอลจีแนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยใช้จุดตัดขาดทุนที่ 2,018 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

Advertisement

ทั้งนี้หากราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน วายแอลจีประเมินว่าภายในไตรมาส 1/2567 มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศในระยะสั้นได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า มองว่าระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ 33,350-33,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านมองในโซน 34,100-34,400 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.90 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2566 เวลา 10.20 น.) ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าซื้อทองคำเพื่อสะสมแนะนำใช้จังหวะทองคำย่อที่ 33,350-33,600 บาทต่อบาททองคำ

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำรูปแบบลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งในไทยและต่างประเทศ วายแอลจีแนะนำบริการ เปิดบัญชี TFEX กับ YLG Futures รับส่วนลดพิเศษค่าคอมมิชชั่นลดสูงสุดที่ 80% บนแอพพ์ฯ Streaming ตั้งแต่สัญญาแรก โดยไม่มีขั้นต่ำ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566 ผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3sVW9eO อีกทั้งผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ CME Group สามารถเทรดผ่านโปรแกรม MT5 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้า YLG Futures มีโปรโมชันพิเศษ 2 ต่อ ได้แก่ ฟรีค่า Market Data (มูลค่า 35 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน) และฟรีค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมฝากและถอน จนถึง 31 ธันวาคมนี้

วันที่ 30 พฤศจิกายน สมาคมค้าทองคำได้รายงานราคาซื้อขายทองระหว่างวันว่า ราคาปรับเปลี่ยนรวม 4 ครั้ง โดยปรับขึ้นทันที 150 บาทต่อบาททองคำ และปรับขึ้นอีกครั้งละ 50 บาท รวมปรับขึ้น 300 บาท ส่งผลให้ราคาล่าสุด ณ เวลา 15.16 น. ทองแท่ง รับซื้อที่ 33,800 บาทต่อบาททองคำ และขยายออก 33,900 บาทต่อบาททองคำ ทองรูปพรรณ รับซื้อที่ 33,185.24 บาทต่อบาททองคำ และขายออกที่ 34,400 บาทต่อบาททองคำ

Advertisement

ทั้งนี้ราคาขายออกทองรูปพรรณ ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นที่ครั้ง 5 ของปีนี้ โดยราคานิวไฮเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ราคาอยู่ที่ 33,750 บาทต่อบาททองคำ วันที่ 18 ตุลาคม ทำนิวไฮใหม่ ที่ 33,800 บาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ราคานิวไฮใหม่ ที่ 34,000 บาทต่อบาททองคำ และวันที่ 29 พฤศจิกายน ทำนิวไฮครั้ง 4 ที่ 34,100 บาทต่อบาททองคำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image