หนุ่มอดีตแรงงานอิสราเอล น้อยใจเมียไล่ออกจากบ้าน เผาโรงนาพ่อตาวอด สารภาพประชดรัก หลังพยายามไปทำงานหาเงินที่ต่างประเทศมาเลี้ยงครอบครัวมานานหลายปี กลับมาถูกไล่ออกจากบ้าน!
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 สภ.บ้านค่าย ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงนาท้ายหมู่บ้านบ้านดอนขวาง ต.บ้านโนนสำราญ อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของ สภ.บ้านค่าย จึงได้เร่งจัดเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมประสานรถดับเพลิงขอระงับเหตุ จนเพลิงสงบ ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยที่กำลังเมาสุราอยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวน และสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก
ก่อนที่ พ.ต.อ.อภิวัชร์ นาทอง ผกก.สภ.บ้านค่าย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชยพล ดีหลี สว.สอบสวน สภ.บ้านค่าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ และตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปตรวจสอบและได้นำตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายสังคม มูลเทพ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นลูกเขยของเจ้าของโรงเรือนเก็บฟางข้าวที่ได้รับความเสียหาย ที่ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุ และพาตัวทำแผนประกอบคำรับสภาพในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ เบื้องต้นในที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทรัพย์สินของ นายบุญจันทร์ ช่องศรี อายุ 83 ปี อยู่ 67 หมู่ 4 บ้านดอนขวาง ต.โนนสำราญ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นพ่อตาผู้ก่อเหตุ
และจากการสอบถาม นายสังคม มูลเทพ อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ที่ตนตัดสินใจก่อเหตุเผาโรงเรือนเก็บฟางข้าวในนาของพ่อตาในครั้งนี้ เนื่องมาจากความน้อยใจและช้ำใจกับลูกสาวพ่อตา ที่เป็นเมียที่รักกันมากว่า 5 ปี ตั้งแต่ตนไปทำงานที่ต่างประเทศ ทั้งเกาหลีและประเทศอิสราเอลมากกว่า 5 ปี ก็เพิ่งได้กลับมาอยู่กินกับภรรยากว่า 1 ปี ในขณะที่อยู่กับเมียนั้นตนรักและก็ได้มาช่วยพ่อตาเลี้ยงวัวกว่า 30 ตัวที่ไร่โรงนาที่สร้างเป็นเรือนเก็บฟางข้าวไว้ท้ายหมู่บ้าน แต่ก็มาถูกเมียรักนำกระเป๋าเสื้อผ้ามาโยนไว้ที่บ้านตน และไล่ให้ออกจากบ้าน
จึงรู้สึกคับแค้นใจบวกกับเมาสุราเลยตัดสินใจก่อเหตุเผาโรงนาของพ่อตาในครั้งนี้
ทางด้าน พ.ต.อ.อภิวัชร์กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเผาโรงนา หรือโรงเรือนเก็บกองฟางก้อนของพ่อตาจริง โดยอ้างว่าฝ่ายเมียเป็นผู้ไล่ตนเองออกจากบ้าน เนื่องด้วยผู้ต้องหามีนิสัยชอบดื่มสุราและทะเลาะกับภรรยาเป็นประจำ ทางพ่อตาและเมียตัวเองจึงเรียกแม่ของผู้ต้องหามาเจรจาและอยากให้เลิกกัน ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ
ก่อนข่มขู่ว่าจะทำร้าย เผาทรัพย์สิน จนกระทั่งผู้ต้องหาได้เกิดความเครียดบวกกับดื่มสุราเมาจนคุมสติไม่อยู่ จึงได้มาจุดไฟเผาฟางอัดก้อนที่เก็บไว้ในโรงเก็บ ทำให้ฟางอัดก้อนกว่า 1,500 ก้อน ก้อนละ 25 บาท เป็นเงิน 37,000 บาท และโรงเรือนเก็บฟาง หลังคามุงสังกะสี ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร ราคา 100,000 บาท ได้รับความเสียหายครั้งนี้ รวมมูลค่าราคาทรัพย์สินกว่า 137,500 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังก่อเหตุพบผู้ต้องหาอยู่ที่เกิดเหตุ และพบไฟแช็กที่ใช้จุดไฟอยู่กับผู้ต้องหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน และยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดีในคดีข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายตามกฎหมายต่อไป