วัฒนธรรมต่าง ศิลปะบ่กั้น ‘Cross Encounter’ เพราะ ‘อาร์ตทอย’ โตมาจากซับคัลเจอร์

28 ศิลปิน โชว์ผลงานอาร์ตทอยใน “Cross Encounter” เชื่อมโยงวัฒนธรรมย่อยของไทย-เกาหลี-ญี่ปุ่น

ลาบูบู้ปีศาจน้อยหูยาว ยิงเขี้ยวแหลม ขึ้นแท่นอาร์ตทอยสุดไวรัล ราคาอัพขึ้นไม่ยั้ง หลังศิลปินดังลิซ่าถือน้องมาเซลฟี่

เป็นสิ่งสะสม กึ่งของเล่นกึ่งงานศิลปะ ที่กลายมาเป็นไอเท็มต้องมีในยุคปัจจุบัน 

สำหรับอาร์ตทอย’ (Art Toys) ของเล่นที่เน้นตั้งโชว์ แต่กลับนำพาศิลปินหน้าใหม่ๆ หลายชีวิตประสบความสำเร็จกันทั่วโลก ด้วยรูปแบบที่แปลกใหม่ ไร้ขีดจำกัดในการสร้างสรรค์ ทำให้งานอาร์ตประเภทนี้เตะตาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ไม่ว่าในไทยหรือเอเชีย ก็หนีไม่พ้นกระแสฮอตฮิต เร็วๆ นี้ 333Gallery เปลี่ยนโฉมให้พื้นที่ ให้กลายเป็นแหล่งรวมผลงานอาร์ตทอยชิ้นเด่น ในนิทรรศการ “Cross Encounter” โดย DDDArttoys โดยศิลปินชื่อดังจาก 3 ชาติในเอเชีย ไม่ว่าจะไทย 8 เกาหลี 18 และญี่ปุ่นอีก 2 ท่าน มารวมตัวกันเพื่อขับเน้นความคิดสร้างสรรค์ ของทั้ง 28 ศิลปิน 

ADVERTISMENT
‘Running Mon’ 400% ver.THAILAND Special Edition และ 100& (with CROWN) โดย UpTempo

ไม่ว่าจะ UTEMPO, HA HOUNG HUN, Bazbon, Kickflip, Zaycoke, Aone, DDING, LoserWorks, Ahn Sanggeun, Won Sohn, Kim Chang Kyum, Zangana, Lee Dongjoe, Luckxy, RostaMoon, Junyuck, Park Minchan, Lee Seongheon, Zoe, Bell Nakai, Benzila, Rollerbot, Ngaew Ngaew, Parn Aniwat, Cheese Arnon, Manow Nowhere, Jan Kajonsak, Tee Nateepol

ทั้งน่าสนใจและงดงาม ภายใน “Cross Encounter” อัดแน่นไปด้วยผลงานศิลปะจัดวาง ไม่ว่าจะเป็นวิจิตรศิลป์ (Fine Art) หรืออาร์ตทอย ให้ค่อยๆ เดินละเลียดชม ผสมผสานระหว่าง Art Toys และภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ โดยเปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จนถึงโค้งสุดท้าย 5 พฤษภาคมนี้ 

ADVERTISMENT

ไม่ใช่แค่ภาพ หรืองานอาร์ตจัดวาง แต่ยังรวมบทสนทนา เรื่องราวที่ซับซ้อนอันข้องเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงร่วมกัน ตั้งแต่นิทานพื้นบ้าน และชีวิตร่วมสมัยผ่าน Art Toys และภาพวาดศิลปะเรียงรายนับ 100 ชิ้น

เป็นเหมือนสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สะท้อนความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมที่ห่างไกล

คาแร็กเตอร์คนขี้แพ้

ปลุกใจ ลุกขึ้นยืนด้วยลำแข้ง

ชิ้นที่เห็นแล้วต้องสะดุดตา ไม่แพ้ Crybaby 

คือผลงาน ‘Baby Loser’ โดย Kang Eun-gyu (LoserWorks) ศิลปินเกาหลีและดีไซเนอร์ของเล่น

ที่ขยายความถึงที่มาที่ไป ให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้รู้เบื้องลึก

ผลงานศิลปะ Art Toy ชิ้นนี้มีชื่อว่า ‘Baby Loser’ นำเสนอบุคคลในสังคมที่ถูกเรียกว่าเป็นคนขี้แพ้ (Losers) คนที่อาจจะทำอะไรไม่เคยสำเร็จ คนที่ถูกรังแก คนที่มีความฝันไร้สาระ ที่ไม่อยู่ในกระแสหลักของสังคม ทุกคนใฝ่ฝันถึงชีวิตที่มหัศจรรย์และมีสีสัน แต่ทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นกระแสหลัก

เป็นเหตุผลที่ Kang Eun-gyu ได้สรรค์สร้าง Art Toys คาแร็กเตอร์คนขี้แพ้ตัวเล็กๆ เพื่อให้คนเก็บไว้ เพื่อคนเหล่านั้นได้รู้สึกถึงเสน่ห์ และอยากปลอบโยนคนขี้แพ้เหล่านั้น

ซูมดูคาแร็กเตอร์ของ Art Toys ตั้งแต่เสื้อผ้า หรือคอสตูม ที่ออกแบบจากจินตนาการ ว่าเด็กไทยจะใส่เสื้อผ้าประมาณนี้ และคาแร็กเตอร์ที่เหมือนกับว่าเด็กเหล่านั้นจะต้องลุกขึ้นมายืนด้วยขาตัวเอง ต้องยืนหยัดต่อสู้ด้วยตัวเอง ตัว Baby Loser จึงถูกเลือกใช้สีให้เหมือนกับธงชาติไทยเป็นเหมือนกับตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเกาหลี

ไม่พลาด ศิลปินท่านนี้ยังได้เล่าถึงความแตกต่างระหว่างเด็กไทยกับเด็กเกาหลี ไว้เช่นกัน 

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพราะฉะนั้น จินตนาการในเรื่องของเด็กที่ประเทศไทย ก็ได้รับมาจากทางสื่อออนไลน์ ที่ผมเห็นว่าเด็กในประเทศไทย อาจจะดูสนุกสนาน ชอบอยู่ด้วยกัน มีกิจกรรมรวมกัน แต่ว่าเด็กเกาหลีค่อนข้างขี้อาย และเก็บตัวมากกว่าเด็กไทย” Kang Eun-gyu เผย

‘Star of Hope’ โดย Jittirobot ศิลปินไทย

อยากหยุดสงคราม

ชุบชีวิต เพิ่มอิมแพคผ่านการ์ตูน

ด้าน Lee Dongjae ศิลปินเกาหลี ได้รับแรงบันดาลใจและภาพต่างๆ มาจากการ์ตูนคอมมิก และแอนิเมชั่น 

พลิกแพลงจนเกิดผลงาน The Begin ซีรีส์ชุดใหม่ ที่เป็นการเอาสิ่งที่อยู่ในการ์ตูนออกมาให้อยู่ในชีวิตจริง ทั้งยังสะท้อนถึงความรุนแรงของสงคราม 

ผลงานศิลปะที่เป็นเหมือนหนังสือคอมมิก อยู่ในกล่องที่เหมือนกับระเบิด เพราะว่าในโลกนี้มีสงครามมากมายเกิดขึ้น รวมทั้งที่ประเทศเกาหลีเอง ก็ยังมีสงครามเกิดอยู่ เลยคิดว่าอยากจะหยุดสงคราม งานชิ้นนี้ก็เหมือนกับมุมมองที่เกี่ยวกับความอยากที่จะให้สงครามมันหยุดเกิดขึ้นสักที” Lee Dongjae เปิดเผยความหวัง

ส่วนงานศิลปะทั้ง 3 ภาพ เป็นซีรีส์เดียวกัน สื่อถึงอิมแพคของการ์ตูน (comic) ที่เริ่มที่จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามขนาดของภาพ และขนาดงานที่หลุดออกมาจากภาพ ซึ่งอยากได้อิมแพค ที่การ์ตูนออกมาอยู่ในชีวิตจริง และจะพัฒนาต่อยอดจากซีรีส์นี้ไปเรื่อยๆ ด้วย 

เป็นครั้งแรกเหมือนที่ได้มาเยือนประเทศไทย และเปิดตัวแสดงงานครั้งแรกในนิทรรศการต่างประเทศ เป็นอะไรที่มีความหมายมาก เพราะตั้งแต่งานเปิดนิทรรศการ ก็ตื่นเต้นที่ได้จะไปสำรวจประเทศไทย” Lee Dongjae เผยความรู้สึก ที่แทบรอไม่ไหวอยากไปสำรวจบ้านเมืองเรา 

The Begin โดย Lee Dongjae ศิลปินเกาหลี

ดาวแห่งความหวัง

ของเล่นบูสต์เอ็นเนอร์จี้ ชีวิตคือจุดต่อจุด

แน่นอนว่า ไร้ซึ่งความหวังและสังคม ปัจจเจกชนคงอยู่ได้อยาก

หันมาส่องศิลปินไทยจิตติ จำเนียรไวย’ (Jittirobot) เล่าถึงผลงานที่มีคาแร็กเตอร์หุ่นยนต์ ที่ชื่อว่า ‘ROLLER-BOT’ ซึ่งได้นำมาเป็น Art Toys ภายใต้ในชื่องาน ‘Star of Hope’ 

ชวนคิดว่า หากมองในอีกรูปแบบหนึ่งแล้วจริงๆ แล้ว หุ่นยนต์ก็อาจจะไม่ต่างจากมนุษย์เสียเท่าไหร่ หุ่นยนต์กับมนุษย์ต่างก็ถูกตั้งโปรแกรมมา ไม่ว่าจะจากสังคม ศาสนา วัฒนธรรม หรือใดๆ ก็ตามจากสภาพแวดล้อมนั้น 

แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือภายในของคน การเห็นคุณค่าภายในตัวของตนเอง ดาว เป็นเหมือนกับแสงสว่างที่รวมตัวกันและยิ่งมากขึ้น และเข้าใจว่าในตัวเอง เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำอยู่ เพราะว่าการมีชีวิตอยู่ เป็นสิ่งที่ดีจิตติเผย 

ส่วนที่มาที่ไปของผลงาน ที่แปลเป็นไทยว่าดาวแห่งความหวังจิตติทวนเรื่องราว ที่เหมือนแสงสว่างนำทางตัวเองมาจนถึงปัจจุบัน

แฟลชแบ๊ก ย้อนกลับไปในระยะเวลาที่ลาออกจากงาน และเริ่มต้นทำงานศิลปะอย่างจริงจัง ในช่วงที่เราลาออกปี 2008 มันเหมือนกับไม่เห็นแสงสว่าง ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปยัง เพื่อไปในเป้าหมายที่เราอยากจะไปถึง แต่เราก็รู้สึกว่าชีวิตมันเหมือนจุดต่อจุด รู้สึกว่าดาวมันอาจจะสว่างไม่มาก 

แต่เหมือนกับพอเราเก็บมันไปเรื่อยๆ หนึ่งดวง สองดวง มันเยอะขึ้นๆ แสงสว่างมันก็มากขึ้น ก็ทำให้เห็นบรรยากาศรอบตัวเรามากขึ้น มันก็เลยเป็นสัญลักษณ์ที่ได้ใช้นำทางมาตลอดทั้งแต่เริ่มต้นจนถึงงานชิ้นนี้เป็นอีกแนวคิดที่น่าสนใจ

จิตติบอกด้วยว่า เวลาทำงานส่วนตัวมักจะตั้งคำถาม แล้วตัวงานก็จะตอบกลับ

มันเหมือนกับเราถามตอบกัน เราทำงานนี้ไว้เพื่อที่จะเป็นสัญลักษณ์ เวลาที่รู้สึกแย่ หรือรู้สึกท้อ ให้รู้สึกถึงการมีคุณค่าในตัวเองหรือว่าเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันก็เป็นส่วนหนึ่งในแต่ละวันในการมีชีวิตอยู่ มันทำให้เราอยากมี Energy ที่จะตื่นมาทำงานอะไรต่อมิอะไรจิตติฝากทิ้งท้าย

เหยียบแผ่นดินครั้งแรก 

เด็กเหมือนลูกไก่ ใช้คิ้วพูด

ที่แหวกแต่แปลกดี ยกให้ไอเดียของ ‘Aone won’ศิลปินเกาหลีและอาร์ตทอยดีไซเนอร์

เลือกทำตัวการ์ตูนที่มีแรงบันดาลใจมาจากลูกของตัวเอง โดยอาร์ตทอยตัวนี้มีชื่อว่า ‘Nova’ ทำขึ้นมาเพื่อจัดแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ

ได้รับแรงบันดาลใจจากคนที่ไปเหยียบดวงจันทร์คนแรก เปรียบเหมือนรูปของตัวศิลปินเอง ที่ได้มาเหยียบผืนดินประเทศครั้งแรก จึงเลือกใช้ธงประเทศ แต่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง

ที่เลือกใช้ลูกไก่เป็นตัวละคร เพราะว่าเด็กเหมือนลูกไก่ คิดว่าลูกไก่เป็นสัตว์ที่อาจจะสื่อถึงการเป็นเด็กได้ดีที่สุด แล้วที่เลือกคิ้วเป็นจุดเด่นของตัวคาแร็กเตอร์ เพราะว่าเด็กไม่สามารถพูดได้ แต่เวลาเด็กจะสื่อสารเรื่องอารมณ์มักจะสื่อผ่านคิ้ว 

เวลาที่เห็นอารมณ์ลูกผ่านคิ้ว แล้วใช้คิ้วแทนสิ่งของต่างๆ ที่เด็กชอบไม่เหมือนกัน มาอยู่ที่ตรงคิ้วของคาแร็กเตอร์” Aone won เล่าให้เก็ตภาพ 

เขา คือวิวัฒนาการ

อาร์ตทอย คือซับคัลเจอร์

ปิดท้ายด้วยผลงานของ UpTempo ศิลปินของเล่นและผู้อำนวย Hands In Factory ผู้ออกแบบ ‘Running Horns’ และ ‘Oceans Crew’ อธิบายถึงผลงานจากฝีมือของตัวเองด้วยความตื่นใจ

เป็นตัวคาแร็กเตอร์ที่มีเขาเป็นสัตว์ที่มีเขาทุกชนิด แล้วทำไมถึงต้องมีเขา ก็เพราะมันแสดงถึงการวิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลง อย่างในสัตว์บางตัว เขาอาจจะยาว บางตัวก็อาจจะเล็กลง

และอีกผลงานอาร์ตทอย ‘Running Mon’ ทำขึ้นมาให้ชมเฉพาะสำหรับผู้ชมในไทยโดยเฉพาะ โดยทำตัวคาแร็กเตอร์นี้ขึ้นมาเปล่าๆ เปลือยๆ ซึ่งสามารถเลือกสี เลือกฟีเจอร์ลักษณะเฉพาะเข้าไปได้ ส่วนงานตัวสุดท้ายเป็นตัวที่ เป็นผลงานดั้งเดิมของเขา ‘Keep Running’ (Running Horns) ซึ่งใส่ความหมายลงไปมากที่สุดในสามตัว 

ในตอนแรกก็ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องประดับราชวงศ์หรือมงกุฎของไทย ก็ได้ศึกษาค้นคว้าจากภาพหลายๆ ภาพ แล้วทำความเข้าใจ จนออกมาเป็นมงกุฎ ในรูปแบบในความเข้าใจของตัวเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานซีรีส์ Running Mon” 

UpTempo ศิลปินเกาหลี

UpTempo ยังได้เล่าที่มาของชื่อของนิทรรศการ “Cross encounter” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากชื่อหนังในเรื่อง Close Encounters การมาเจอกันระหว่าง

หลายๆ สิ่ง ที่มารวมกัน เหมือนกับการที่เขาได้เชิญชวนศิลปินหลายๆ คนมาร่วมงานนิทรรศการในครั้งนี้ 

เรื่องสถานการณ์อาร์ตทอยในเกาหลี ที่ก็เป็นกระแสโด่งดังคล้ายในประเทศไทย เติบโตมาจากวัฒนธรรมย่อย (Subculture) ซึ่งมีศิลปินไม่กี่ท่านที่ทำงานแบบนี้ ต่อจากนั้นก็เริ่มกระจายไปทั่ว ศิลปินหลายท่านก็เริ่มหันมาทำอาร์ตทอยกัน

จริงๆ ก็เพิ่งมาถึงประเทศไทย ก็ต้องตกใจกับความร้อน แต่ก็ตื่นเต้นหลังจากตารางงานที่จะได้ไปหาเรื่องสนุกๆ ดีๆ ในประเทศไทย และก็รู้ว่าศิลปินในประเทศไทยหลายคนที่มีชื่อเสียงที่ดี เช่น สตรีทอาร์ต (Street Art) จึงอยากจะไปดูงานศิลปะเหล่านั้นด้วยคือสิ่งที่ศิลปินเกาหลีผู้นี้ มองเห็นความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมรอง 

พร้อมป้ายยา ยกให้นิทรรศการนี้ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา ที่จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่พบเจอกับคนในบ้านเกิดของตัวเอง 

ต่อไปนี้ก็อยากที่จะได้ประสบการณ์ แบบที่ได้ในนิทรรศการแบบนี้ในครั้งต่อไปศิลปินเกาหลีทิ้งท้าย

สรรค์พงษ์ เครือศรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image