เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการจับกุมตัว น.ส.นภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ในข้อหา “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลอายุเกินกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึง 18 ปี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ,เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม” โดยจับกุมได้ที่โรงแรมเเห่งหนึ่ง ในแขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้มีการลักลอบนำเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี มาแสวงหาประโยชน์ทางเพศโดยการให้บริการนั่งดื่มเอ็นเตอร์เทน โดยการล่อซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นเมสเซนเจอร์จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจากนั้น พ.ต.ท.จักรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำการวางแผนล่อซื้อจับกุมในครั้งนี้ โดยการให้สายลับทำการล่อซื้อผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยสายลับจำนวน 2 นาย ทำการล่อซื้อบริการนั่งดื่มเอ็นเตอร์เทนและให้บริการร่วมประเวณีทางเพศได้ ซึ่งได้นัดหมายกับโมเดลลิ่งว่าให้พาหญิงสาวอีกจำนวน 2 คน มาที่โรงแรมดังกล่าว โดยตกลงซื้อบริการทางเพศจำนวน 1 คน และให้บริการนั่งดื่มเอ็นเตอร์เทนจำนวน 2 คน ซึ่งสายลับได้ทำการโอนเงินเพื่อมัดจำการซื้อบริการให้กับโมเดลลิ่ง 500 บาท
ต่อมาเวลาประมาณ 00.10 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน สายลับได้ทำการเปิดห้อง 117 และ 118 โรงแรมดังกล่าว และต่อมาเวลาประมาณ 01.15 น. น.ส.นภัทร ได้เดินทางมาพร้อมสาวผู้ให้บริการอีก 2 คน โดย 1 ใน 2 คนที่เดินทางมาด้วยเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี แต่ในขณะนั่งดื่มสังสรรค์ ผู้ต้องหาได้เสนอบริการทางเพศ เมื่อพบพฤติการณ์กระทำความผิดชัดเจน จึงแจ้งให้ตำรวจชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยนางสาวนภัทร ได้ให้การกับตำรวจว่า เป็นคนติดต่อชักชวน 2 หญิงสาวมาให้บริการ เพื่อมารับงานค้าประเวณีจริง จะได้ส่วนแบ่งเงินจากการติดต่อชักชวนหญิงสาวคนละ 500 บาท พร้อมให้ตรวจสอบในโทรศัพท์มือถือ ก่อนเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเป็นผู้ติดต่อประสานงานจริง จึงต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน และรับสารภาพว่าเป็นนายหน้าติดต่อค้าประเวณีมานานกว่า 2 ปีแล้ว ตำรวจจึงคุมตัวส่ง สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ฯ ข้อหา “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลอายุเกินกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึง 18 ปี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น , เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม” ส่วนเยาวชนอายุ 15 ปี ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาช่วยเหลือตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว
