ยอดดับเหตุแผ่นดินไหวเมียนมาพุ่ง 144 ราย เจ็บอีก 730 คน
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ซึ่งตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.4 แมกนิจูด สั่นสะเทือนมายังไทย เมื่อวันที่ 28 มีนาคม
พลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 144 คน และมีผู้บาดเจ็บ 730 คน พร้อมกล่าวด้วยว่า มีแนวโน้มว่าจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจะเพิ่มสูงขึ้น
รัฐบาลทหารเมียนมาระบุด้วยว่า ต้องการเลือดจำนวนมากในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง
ภาพสถานการณ์ที่กรุงเนปิดอว์แสดงให้เห็นว่า อาคารหลายแห่งที่เป็นที่พักของข้าราชการนั้นเสียหายอย่างหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามดึงร่างของผู้ประสบภัยออกมาจากซากปรักหักพัง
ที่เมืองมัณฑะเลย์ ความรุนแรงของแผ่นดินไหวส่งผลให้ถนนทรุดตัวลง ทางด่วนเกิดความเสียหาย สะพานรวมถึงเขื่อนก็ถล่มลงมา โดยในภูมิภาคสะกาย (Sagiang) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ สะพานที่มีอายุ 90 ปีพังครืนลงมา ประกอบกับบางช่วงของทางหลวงที่เชื่อมระหว่างมัณฑะเลย์และย่างกุ้งก็เผชิญกับความเสียหายเช่นกัน ทำให้เกิดความกังวลว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าให้ความช่วยเหลือท่ามกลางความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น
มีรายงานเพิ่มเติมว่า อาคารหลายแห่ง รวมถึงวัดมาโสยะเน (Ma Soe Yane) ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง พังถล่มลงมา นอกจากนั้น พระราชวังหลวงเก่าเสียหายอีกด้วย
องค์กรการกุศลคริสเตียนเอด เปิดเผยด้วยว่า เกิดเหตุเขื่อนแตก ทำให้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำต่ำเพิ่มสูงขึ้นด้วย