ก.ล.ต.-ตลท. ผนึกธปท. เปิดเวทีดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนหลังแผ่นดินไหว ย้ำใจต้องแข็ง-แพนิกเป็นลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สาธารณชนมีความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินของไทย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านและครบถ้วน หน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องในด้านเศรษฐกิจและการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้ร่วมกันจัดแถลงการณ์ร่วมเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในมิติต่างๆ ทั้งด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรม ด้านภาคการผลิต การส่งออก และการท่องเที่ยว รวมทั้งด้านตลาดเงินและตลาดทุนมาพร้อมกันเพื่อนำเสนอสถานการณ์และข้อมูลเพื่อให้ผู้ลงทุนและสาธารณชนได้รับทราบ ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง และให้ความมั่นใจว่าระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ตลอดจนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถดำเนินการและให้บริการได้อย่างปกติ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ผ่อนผันการนำส่งข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแล รวมทั้งบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
นางพรอนงค์ กล่าวว่า อยากให้ย้อนไปก่อนเกิดแผ่นดินไหว ก.ล.ต.มีมาตรการต่างๆ ที่ร่วมกับกระทรวงการคลัง ตลท. และทุกภาคี ได้พยายามสร้างความยืดหยุ่นให้ตลาดหลักทรัพย์ ท่ามกลางความเสี่ยงที่ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งเดินมาได้ด้วยดี ทุกมาตรการที่สื่อสารไป อาทิ แรงขายของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) จึงมีมาตรการที่ร่วมกับกระทรวงการคลังออกมาเป็นการซื้อกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund (TESG) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ ทำให้วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะมีเม็ดเงินใหม่ที่นักลงทุนโดยเฉพาะรายย่อย สามารถลงทุนในตลาดหุ้นและได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม จึงไม่ได้บอกว่ามีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ แต่ต้องการเรียกความเชื่อมั่นขึ้นมาก่อน เพราะขณะนี้เป็นปัญหาในระยะสั้น
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง ในภาพรวมของภาคธุรกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ไม่กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมความพร้อมระบบและการดำเนินการทุกด้าน รวมทั้งประสานงานใกล้ชิดกับบริษัทสมาชิกและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเปิดการซื้อขายหุ้นไทยทุกตลาดในวันนี้ เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศมีภาวะที่ส่งผลกระทบ จึงต้องแยกแยะปัจจัยให้ออก ตัวอย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เปิดตลาดติดลบกว่า 4% แม้มีการปรับตังขึ้นมาได้บ้าง
“ช่วงนี้พูดตามตรงว่า ใจอาจต้องแข็งมากกว่าปกติ หากมั่นใจในข้อมูลพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุน ต้องมีความแน่วแน่มากกว่าปกติ เพราะการตื่นตระหนก (แพนิค) น่าจะเดือดร้อนมากกว่า โดยในระยะยาวหากไม่มีการแพนิก ก็มองว่า ประเทศไทย และบริษัทจดทะเบียนยังแข็งแรง และแข่งขันได้ในระยะยาว” นายอัสสเดช กล่าว
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ให้ความมั่นใจถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินและการให้บริการทางการเงิน อาทิ ระบบบาทเนต และ mobile banking application ของทุกธนาคาร รวมทั้งระบบเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องเป็นปกติ เช่นเดียวกับการให้บริการของสถาบันการเงินแก่ลูกค้าประชาชนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ธปท. ได้กำชับให้สถาบันการเงินพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ประสบภัย เช่นเดียวกับที่เคยให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเมื่อเกิดอุทกภัยในปี 2567 โดยได้มีการผ่อนปรนเกณฑ์บางด้านรองรับไว้แล้ว