‘บิ๊กไก่’ปธ.วันที่ระลึกและวันกองทัพอากาศ ประจำปี 2568 ‘อดีตผบ.ทอ.-ทายาท’ร่วมพิธี
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่กองทัพอากาศ ดอนเมือง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) เป็นประธานในพิธีเนื่องในวันที่ระลึกกองทัพอากาศและวันกองทัพอากาศ ประจำปี 2568 โดยมีอดีต ผบ.ทอ.เข้าร่วมอาทิ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ รวมทั้งทายาทอดีต ผบ.ทอ.ร่วมงาน
ด้วยวันที่ 27 มีนาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกกองทัพอากาศ และวันที่ 9 เมษายนของทุกปี เป็นวันกองทัพอากาศ เพื่อให้กำลังพลได้ระลึกถึงวันสำคัญของกองทัพอากาศ จึงได้กำหนดประกอบพิธีเนื่องในวันที่ระลึกกองทัพอากาศและวันกองทัพอากาศ ประจำปี 2568 โดยประกอบพิธี ดังนี้ พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะและพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ รวมทั้งบวงสรวงดวงวิญญาณบุพการีทหารอากาศ, อดีตผู้บังคับบัญชากองทัพอากาศ และวีรชนทหารอากาศ ณ พระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พิธีฟังสาร ผบ.ทอ.เนื่องในวันกองทัพอากาศ ประจำปี 68 ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ พิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์บุพการีทหารอากาศและอดีตผู้บังคับบัญชากองทัพอากาศ พิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ทหารอากาศ พิธีมอบรางวัลหน่วยงานดีเด่นกองทัพอากาศ, รางวัลบุคคลดีเด่นของกองทัพอากาศ, รางวัลนิรภัย, รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นและผลงานบทความทางวิชาการ และรางวัลการเขียนเอกสารวิจัยดีเด่น ณ ห้องบรรยายกองบัญชาการกองทัพอากาศ พิธีบำเพ็ญกุศล ณ ห้องรับรองจักรพงษ์ กองบัญชาการกองทัพอากาศ
นับตั้งแต่กิจการบินได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทยนำมาซึ่งการพัฒนานภานุภาพอย่างไม่หยุดยั้งจากแผนกการบินมุ่งสู่การเป็นกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาคและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพอากาศได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความมั่นคงให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทัพอากาศมีความพร้อมในการป้องกันประเทศ รักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และร่วมพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
กิจการบินของไทยเริ่มต้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีชาวต่างประเทศได้นำเครื่องบินมาแสดงให้ชาวไทยได้ชมเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2454 อันทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพในสมัยนั้นพิจารณาเห็นว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีเครื่องบินไว้เพื่อป้องกันภัยที่จะเกิดแก่ประเทศชาติในอนาคต ด้วยเหตุนี้กระทรวงกลาโหมจึงได้ตั้ง “แผนกการบิน” ขึ้นในกองทัพบก พร้อมทั้งได้คัดเลือกนายทหารบก 3 คน ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมไปศึกษาวิชาการ ณ ประเทศฝรั่งเศส อันได้แก่ พ.ต.หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ร.อ.หลวงอาวุธสิขิกร และ ร.ท.ทิพย์ เกตุทัต ทั้ง 3 ท่านนี้ ในเวลาต่อมาได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์ตามลำดับ คือ พล.อ.ท.พระยาเฉลิมอากาศ, น.อ.พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ และ น.อ.พระยาทะยานพิฆาต และ กองทัพอากาศได้ยกย่องให้เป็น “บุพการีของกองทัพอากาศ”
ต่อมาในปี 2464 กระทรวงกลาโหมได้พิจารณาเห็นว่ากำลังทางอากาศมิได้เป็นกำลังเฉพาะในด้านยุทธศาสตร์ทางทหารเท่านั้น แต่มีประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อกิจการด้านอื่นๆ อีกด้วย จึงได้แก้ไขการเรียกชื่อจาก กรมอากาศยานทหาร เป็น กรมอากาศยาน และเป็น กรมทหารอากาศ ในเวลาต่อมา โดยให้อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยตรง พร้อมทั้งได้มีการกำหนดยศทหารและการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบจากสีเขียวมาเป็นสีเทาดังเช่นปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2480 กระทรวงกลาโหมได้ยกฐานะ “กรมทหารอากาศ” เป็น “กองทัพอากาศ” โดยมี น.อ.พระเวชยันตรังสฤษฏ์เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศคนแรก กองทัพอากาศจึงได้ถือเอาวันที่ 9 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันกองทัพอากาศ”
