เล่นเป็นทีมไม่เก่ง

หากมองย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างในประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ยังคงเดิมเช่นกัน โดยสิ่งแรกที่ยังเดิม และเป็นปัญหาที่ยังไม่ถูกแก้ไขมาอย่างยาวนาน เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม และดูเหมือนว่ายิ่งนานวันเข้า ช่องว่างนี้ก็ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม จนยากจะถมให้เต็ม

ไม่แตกต่างจากปัญหาระยะสั้นที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปีจนแทบจะกลายเป็นปัญหาระยะยาว ตัวอย่างที่มองเห็นชัดๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง ที่เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก วนเวียนไม่รู้จบ โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไทยเผชิญกับภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนมีน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดทั่วไทย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเคยเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีการระบุถึงการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันการเกิดขึ้น มีเพียงการเยียวยาผลกระทบระยะสั้นๆ หลังเกิดความสูญเสียแล้วเท่านั้น

ในแต่ละภาคส่วนต้องประสบปัญหาคล้ายกัน อย่างภาคการท่องเที่ยวไทย ที่เป็นเครื่องจักรหลักสร้างรายได้เข้าประเทศ มีความพยายามพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ติดกับดักในเรื่องง่ายๆ ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ อาทิ การโก่งราคาขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการบางกลุ่ม แท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ เรือโดยสารระหว่างเกาะเรียกเก็บค่าบริการในหลักพันจนถึงหลักหมื่น เกินความเป็นจริงไปมาก

เราเผชิญกับปัญหาเหล่านี้มาตั้งแต่ท่องเที่ยวไทยเข้าสู่ยุคเรืองรองช่วงปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อท่องเที่ยวฟื้นตัวอีกครั้ง ปัญหาเดิมก็กลับมา แม้มีความพยายามจากภาครัฐในการปราบปรามอย่างจริงจัง ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้องบอกว่า การบูรณาการร่วมกันของแต่ละฝ่ายเหล่านี้ ยังไม่มากเพียงพอ เหมือนที่มีหลายคนปรามาสไว้ว่า ประเทศไทยเล่นคนเดียวเก่ง แต่เล่นเป็นทีมไม่เก่ง การแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมา
จึงเหมือนการทำงานเดี่ยว ต่างคนต่างทำ หันหน้าเข้าหากันน้อยมาก

มองภาพใหญ่ในด้านการบริหารงานของรัฐบาล มีความพยายามแก้ไขปัญหา ทั้งระยะสั้นและระยะกลางมาอย่างต่อเนื่อง ในทุกยุค แต่การวางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาวมีให้เห็นน้อยมาก

ADVERTISMENT

เมื่อหันไปทางไหนก็เจอแต่ความเสี่ยง และวิกฤตแบบในปัจจุบัน คงถึงเวลาแล้วที่จะจับมือเล่นกันเป็นทีมอย่างเข้มแข็งเสียที