‘ผบ.อ๊อบ’ตรวจฝึกผสม’Erawan Trident’เสริมเขี้ยวเล็บหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม 3เหล่าทัพและตำรวจในการต่อต้านภัยคุกคาม ‘Grey Zone Threat’ตามแนวชายแดน บก-ทะเล
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการตรวจเยี่ยมการฝึกผสม “Erawan Trident” หลังมีนโยบาย ยกระดับ ให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษร่วม ปรับบทบาทจาก ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (CTOC) มาเป็นศูนย์ปฏิบัติการพิเศษร่วม (JSOC) เพื่อยกระดับขีดความสามารถของกำลังพลและความพร้อมในการปฏิบัติการพิเศษที่ครอบคลุมทุกมิติ โดยมี พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) พล.ท.สุเมธ พรหมตรุษ ผบ. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษร่วม (JSOC) และ พล.ร.ต.อนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.)ร่วมต้อนรับ
มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับขีดความสามารถของหน่วยปฏิบัติการพิเศษไทย และสร้างความร่วมมือกับมิตรประเทศในการเผชิญภัยคุกคาม รวมถึงพัฒนากำลังพลให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในภารกิจอื่น ๆ ของการปฏิบัติการพิเศษ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคต และสามารถช่วยเหลือกองทัพ ประชาชน และประเทศชาติในทุกระดับและทุกมิติ การฝึกในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ 12–30 มีนาคม 2568 และ 12–25 พฤษภาคม 2568 โดยเป็นการฝึกแบบบูรณาการทั้งภาคที่ตั้งและภาคสนาม อาทิ การฝึกที่จังหวัดลพบุรี เป็นการฝึกพื้นฐานด้านการปฏิบัติการพิเศษสำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของไทยทุกเหล่าทัพ รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สามารถปฏิบัติการร่วม(Joint Interoperability)และมีความรู้ใน 4 เสาหลักของการปฏิบัติการพิเศษร่วม คือ Indigenous approach(เกาะติดพื้นที่และชุมชน) Understand&Influence(เข้าใจสังคมจิตวิทยาและเสริมสร้างความร่วมมือ) Precision Targetting(ปฏิบัติต่อเป้าหมาย/ที่หมายด้วยความแม่นยำ) Crisis Response(ตอบโต้สถานการณ์วิกฤติ)
การฝึกที่ภาคเหนือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมแทรกซึม ทำการลาดตระเวนพิเศษและติดตามเป้าหมายภัยคุกคาม ส่วนในพื้นที่ฝึกอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการดำเนินการลาดตระเวนหาข่าวและติดตามเป้าหมายระยะใกล้ (Close Target Reconnaissance: CTR) และวางแผนปฏิบัติการ Visit, Board, Search and Seizure (VBSS) ขยายผลต่อบุคคล/หลักฐานที่เป้าหมาย Suspect&Material Enhancement เพื่อติดตาม/สกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ
การฝึก “Erawan Trident” มีผู้เข้าร่วมจากชุดปฏิบัติการพิเศษของ ศตก. หน่วยปฏิบัติการพิเศษของทุกเหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งสิ้น 61 นาย การฝึกครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หน่วยรบพิเศษทุกเหล่าทำการฝึกร่วมกันทางทะเลถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่กำลังพลหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้รับการพัฒนาขีดความสามารถที่คาดหวังในอนาคต เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงบริหารวิกฤตการณ์ที่มีผลกระทบต่อประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมการปฏิบัติการในทุกมิติ โดยอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษทั้งในประเทศและต่างประเทศ
