กว่า 61 ปีที่แบรนด์ “เชอรีล่อน” (CHERILON) ยืนหยัดในตลาดและอยู่คู่คนไทย หากเปรียบเป็นคนก็เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน
จากรุ่นแรก วันนี้ “เชอรีล่อน” อยู่ภายใต้การบริหารของเจเนอเรชั่นที่ 2 “พิภพ โชควัฒนา” ทายาทรุ่นที่ 3 เครือสหพัฒน์
ซึ่ง “พิภพ” เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 4 คนของ “บุญปกรณ์ โชควัฒนา” ลูกชายคนที่ 2 ของนายห้างเทียม ผู้ก่อตั้งบริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงน่องแบรนด์ “เชอรีล่อน”
ภารกิจหลักนอกจากสปีดยอดขายและผลกำไรให้เติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจที่ไม่เหมือนเดิม และวัฏจักรตลาดสินค้าแฟชั่นที่เปลี่ยนเร็ว การปรับตัวให้เท่าทันยุคสมัย เข้าใจ เข้าถึงลูกค้าก็เป็นอีกโจทย์ใหญ่ของพิภพ
หลังเข้ามารับไม้ต่อจากครอบครัว ปัจจุบัน “พิภพ” วัย 49 ปี นั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายปัจจัยที่ท้าทาย แต่ “พิภพ” มองว่า จากที่ได้เข้ามาช่วยธุรกิจตั้งแต่หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ถือว่าผ่านประสบการณ์ความท้าทายมาไม่น้อย
“ถ้าพูดถึงเชอรีล่อน เราเป็นแบรนด์ไทยและเป็นแบรนด์แรกๆ ตอนนี้เป็นปีที่ 61 แล้ว เราจะผลักดันแบรนด์ไทยของเราให้อยู่คู่คนไทยและนอกเหนือจากเมืองไทยแล้ว ก็ขยายตลาดไปต่างประเทศ ซึ่ง 60 ปีที่ผ่านมาต้องนับถือคนรุ่นก่อน มุมของผมสิ่งที่รุ่นเดิมทำก็ขอคารวะ หลังจากนี้ไปเราจะขยับหรือทำอะไร มันคือผลงานและการต่อยอด หน้าที่รุ่นนี้คือทำให้แบรนด์เชอรีล่อนไม่ได้ดูแก่ แต่ต้องเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงและตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่นให้มากขึ้น เป็นสิ่งที่เรากำลังขับเคลื่อนต่อจากนี้”
นอกจากนี้ “พิภพ” ยังบอกว่า เป้าหมายของเขาในช่วงนี้คือ การเปลี่ยนแปลงให้เร็วและทันกับสถานการณ์ เพราะยุคนี้การวางแผนล่วงหน้านานเกินไปไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่จุดอ่อน เพราะจริงๆ แล้วสถานการณ์ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสูงและในประเทศเราเองก็เปลี่ยนแปลงค่อนข้างสูง คีย์คือคงไม่วางแผนระยะยาว แต่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปกับสถานการณ์มากกว่า
“เราพยายามไม่คิดถึงปัญหา คิดถึงโอกาสที่จะเดินมากกว่า ผมว่าจังหวะนี้ช่วงนี้ต่างประเทศเขาเปิดหูเปิดตามอง ถ้าเรามองว่าจริงๆ จังหวะที่ทุกคนอาจมองว่าไปประเทศเดียวในการหาของ แต่จริงๆ แล้วทุกคนมองไปทั่วเลย ถ้าจังหวะนี้เปิดตัวเราเองให้กว้างขึ้น ก็จะเป็นโอกาสที่เจอคนข้างนอกมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเชอรีล่อนคนอาจจะนึกว่าเป็นสินค้าอยู่เฉพาะเมืองไทย แต่เราไปหลายประเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อิสราเอล อเมริกาก็มี”
และจากการที่มองเห็นโอกาสในวิกฤต พิภพกล่าวว่า ทำให้ปีนี้นิวซิตี้ตัดสินใจลงทุนเครื่องจักรเพิ่มขึ้น เพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อใหม่ที่เข้ามา โดยเฉพาะจากตลาดต่างประเทศ เพื่อคว้าโอกาสที่เข้ามา และขยายการส่งออกเพิ่ม พร้อมกับเปลี่ยนแนวใหม่ มีทั้งส่งออกภายใต้แบรนด์ของเราเอง และส่งออกภายใต้โออีเอ็ม (รับจ้างผลิต)
“ช่วงนี้ ถือว่าเป็นโอกาสหนึ่ง หลายๆ คนอาจจะมองว่าเป็นวิกฤต แต่ผมเชื่อว่าในวิกฤตยังมีโอกาส ซึ่งปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจ จะเห็นภาพคล้ายๆ กัน คือมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก แต่ความเป็นจริงมองว่าโอกาสก็มี ในจังหวะที่มีเหตุการณ์ต่างๆ นานาเข้ามามากขึ้น และเราได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น เป็นโอกาสที่มาพร้อมกับสถานการณ์ต่างๆ”
สำหรับนิวซิตี้ “พิภพ” ฉายภาพรวมธุรกิจในปี 2567 ถ้าพูดถึงตัวเลขยอดขายก็จะค่อนข้างนิ่ง ฉะนั้นจึงยังเห็นภาพตลาดในปี 2568 ยังทรงตัว คล้ายกับปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อที่มีการปรับตัวลดลง แต่มองว่ายังมีโอกาสในการขยายตลาดไปที่อื่น ผมมองว่าโอกาสต่างประเทศมีเยอะ โดยมีเป้าหมายจะขยายไปยังโซนเอเชีย จากปัจจุบันมีการส่งออกโดยรวมที่ 20% และมีแนวโน้มว่าปีนี้การส่งออกจะมีมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เพราะตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด การส่งออกที่เพิ่มเข้ามาถือว่าเป็นโอกาสที่เดินเข้ามา
ส่วนค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อต้นทุนแน่นอน แต่จะมากหรือน้อยอยู่ที่ว่าเป็นสินค้าอะไร บางอย่างที่เป็นสิ่งทออาจจะไม่กระทบเต็มที่มากนัก แต่ถ้าเป็นการตัดเย็บกระทบค่อนข้างมาก และบริษัทได้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้วก่อนหน้านี้
ตลอด 6 ทศวรรษ นอกจากแบรนด์ “เชอรีล่อน” จะได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์อมตะและไม่แก่แล้ว “นิวซิตี้” ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ “ตลาดอินเนอร์แวร์” สำหรับหญิงไทยและเจนใหม่ และไปสู่เป้าหมายมียอดขายมากกว่า 600 ล้านบาทในปีนี้
ล่าสุดเปิดตัวนวัตกรรม “Deep Care Collagen” ครั้งแรกในงาน “สหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29”ที่เพิ่งปิดฉากไปเมื่อวันที่ 26-29 มิถุนายนที่ผ่านมา
“พิภพ” เล่าว่า Deep Care Collagen เป็นนวัตกรรมเส้นใยระดับนาโน ผสานสารสกัดคอลลาเจนจากปลาค็อด ปลาทะเลน้ำลึกที่มีคอลลาเจนคุณภาพสูง ผสมเข้ากับเส้นใย Nylon ผ่านกระบวนการฉีดขึ้นรูป Masterbatch ทำให้ได้เส้นใยคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติถาวร ไม่เสื่อมสลายแม้ผ่านการซัก และการทอด้วยเทคนิค Seamless เพื่อความเนียนนุ่ม สวมใส่สบาย ไม่ระคายผิว ทำให้ได้อินเนอร์แวร์ที่ไม่เพียงแต่สวมใส่สบาย แต่ยังดูแลผิวอย่างลึกซึ้ง ภายใต้แบรนด์ CHERILON Collagen Collection มีทั้งถุงน่อง ชุดชั้นในและอินเนอร์แวร์
โดยผลิตภัณฑ์มี 6 คอลเล็กชั่น ได้แก่ ถุงน่องคอลลาเจน ช่วยซัพพอร์ตเรียวขา เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว, ถุงเท้าคอลลาเจน ลดปัญหาส้นเท้าแตก นุ่มสบาย, ปลอกแขนคอลลาเจน ปกป้องผิวจากรังสียูวี มีความชุ่มชื้น, บราคร็อปคอลลาเจน ใส่สบาย รองรับการเคลื่อนไหว, สายเดี่ยวคอลลาเจน มีฟองน้ำในตัว ไม่พึ่งบรา พร้อมบำรุงผิวชุ่มชื้น และกางเกงในคอลลาเจน ไร้ตะเข็บที่ใส่แล้วสบายผิว ตอบโจทย์สาวๆ เจนใหม่ที่ต้องการทั้งความสวย ความสบาย และสุขภาพผิวที่ดีในผลิตภัณฑ์เดียว เป็นการแก้เพนพอยต์ผู้บริโภค เช่น อาจมีปัญหาส้นเท้าแตกและถือว่าเราเป็นคนแรกของประเทศไทยที่ออกสินค้าตัวนี้
“โจทย์การพัฒนาสินค้า ปัจจุบันเป็นยุคที่คนพูดถึง Sustainability ซึ่งสินค้าฟาสต์แฟชั่น มีการหมุนเวียนค่อนข้างเร็วจะไม่ค่อยดีต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่ในทางกลับกันเราพูดถึงสินค้าใช้ได้ระยะยาว จะมาจบที่ว่าสินค้ามีความคงทนหรือเปล่า เราก็อยากดูแลเรื่องของสิ่งแวดล้อมในการผลิตสินค้าและการใช้งานที่มีความยาวนาน ก็เป็นคีย์ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยางต่างๆ บางทีสวมสินค้าใช้แล้วยางยืดง่าย ใช้ได้แป๊บเดียว จึงพัฒนาสินค้าออกมาค่อนข้างที่จะคงทนและอยู่ได้นานตามอายุการใช้งาน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และเชื่อมั่นว่า CHERILON Collagen Collection สินค้าไฮไลต์ที่เราจะทำตลาดในครึ่งปีหลังนี้ จะได้รับการตอบรับจากแฟนคลับเชอรีล่อน เพราะราคาไม่แพง เข้าถึงได้ เริ่มต้น 290 บาทถึง 890 บาท ซึ่งเชอรีล่อนยังเน้นสินค้าที่เข้าถึงได้ ไม่ให้เอื้อมถึงยากๆ อยากให้ทุกคนมีโอกาสได้ใช้ สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ นิวเจน ออลเจน ใช้คอลลาเจน” พิภพกล่าว
เป็นการต่อยอดมรดกทางธุรกิจ ให้ก้าวทันโลก “สไตล์พิภพ” โดยไม่ทิ้งรากฐานเรื่องคุณภาพ เพื่อพา “นิวซิตี้” และแบรนด์ “เชอรีล่อน” เคลื่อนสู่ทศวรรษใหม่ เติบโตอย่างยั่งยืน