เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงผลการปฏิบัติการ ตามแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากข้ามชาติ (ชนิดไม้ชิงชัน, ไม้ประดู่) ท้องที่รอยต่อ จ.แพร่-น่าน ว่า ตามคำสั่งของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ 1/2560 ซึ่งสั่งการโดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส.ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา เป็นหัวหน้าศปก.พป. ซึ่งระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคมนี้ คณะอนุกรรมการตามคำสั่งดังกล่าวปฏิบัติการร่วมบูรณาการสนธิกำลัง ประกอบด้วยกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 (ศปป.4 กอ.รมน.) มณฑลทหารบกที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ กองพันทหารม้าที่ 15 จ.น่าน ใต้การอำนวยการของนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ พล.ท.ชัยณรงค์ แก้วกล้า ผอ.ศปป.4 กอ.รมน. พล.ต. วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ พ.ท.บัณฑิต ชาวกัณหา ผบ.ม.2 พัน 15 พร้อมหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศปป.4 กอ.รมน. ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันลงพื้นที่ประชุมและกำหนดทางแก้ปัญหาการลักลอบทำไม้มีค่าหายากข้ามชาติ ในเขตป่ารอยต่อ จ.น่าน-แพร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ ศปก.พป.เลือกให้เป็นเป้าหมายลำดับแรกตามแผนงานการสกัดกั้นการลักลอบทำไม้มีค่าหายาก (ขบวนการข้ามชาติ)
นายชีวะภาพกล่าวว่า ทั้งนี้เป้าหมายปฏิบัติการอยู่ที่ป่ารอยท้องที่ บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน ติดต่อกับเขตต.ห้วยโรง อ.ร้อง จ.แพร่ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อของป่าสงวนแห่งชาติ 3 ป่าและเขตอุทยานแห่งชาติแม่ยม เป็นเขตพื้นที่ป่าต้นน้ำธารของแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน และสภาพป่ายังคงความสมบูรณ์และมีไม้ชิงชันขึ้นอยู่จำนวนมาก เป็นเป้าหมายของขบวนการลักลอบทำไม้ข้ามชาติ
ซึ่งจากการที่นายชลธิศได้สั่งการให้นายอรรถพลนำชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร บูรณาการปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อเป้าหมายการปฏิบัติการ ตามแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากข้ามชาติในพื้นที่เป้าหมายดังกล่าว และปฏิบัติการต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม 2559 พบว่าขบวนการยังมีการเข้าลักลอบทำไม้มีค่าอยู่ อธิบดีกรมป่าไม้จึงสั่งการตามแผนเชิงรุกให้ดำเนินการตัดทำลายเส้นทางของขบวนการเพื่อตัดลำเลียงเส้นทางการขนย้ายไม้ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ 3 เส้นทาง และภายหลังช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่ายังมีเส้นทางที่ขบวนการใช้ลักลอบทำไม้ยังมีอยู่อีก ขบวนการได้ลักลอบตัดเส้นทางใหม่เข้าไปลักลอบทำไม้ในเขตป่าได้อีก และทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดดำเนินคดีได้จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
นายชีวะภาพกล่าวว่า ศปก.พป.จึงได้เลือกพื้นที่เป้าหมายดังกล่าวให้อยู่ในการบูรณาการการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้กฎหมายหยุดยั้งขบวนการดังกล่าวให้จงได้ โดยคณะของนายชลธิศและนายธัญญาพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมและรับฟังสภาพปัญหาในพื้นที่จากหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง และมีความเห็นร่วมกันปฏิบัติการเชิงรุกต่อขบวนการดังกล่าว ได้แก่ ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่า (พื้นที่ป่ารอย จ.น่าน-แพร่) ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ถา ท้องที่หมู่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งเป็นจุดที่ขบวนการทำไม้ต้องลักลอบขนย้ายไม้ผ่านประมาณ 80% ของเส้นทางที่ออกจากป่าของขบวนการ ส่วนการดำเนินการตัดทำลายทางก็ยังต้องดำเนินต่อเพราะสามารถสกัดกั้นขบวนการได้ในระดับหนึ่ง พร้อมมีปฏิบัติการเชิงรุกด้านการขยายผลทางคดี แต่ละคดีให้ถึงที่สุด
นายชีวะภาพกล่าวว่า นอกจากนั้นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เช่นการพัฒนาศักยภาพของรถยนต์ปฏิบัติการที่ยังมีขีดจำกัด เมื่อเทียบกับขบวนการ การนำระบบการตรวจติดตามการเคลื่อนไหวจากกล้องซีซีทีวี มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงรุกของแต่ละหน่วยงานต่อพื้นที่เป้าหมายดังกล่าวที่จะมีการประชุมกำหนดแนวทาง เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามแผนงานเร็วที่สุด และสำหรับการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการต่อเนื่อง ทั้งทางภาคพื้นดินและการสนับสนุนการชี้เป้าจากทางอากาศยาน วันนี้สามารถตรวจยึดดำเนินคดีขบวนการทำไม้ได้จำนวนหลายคดี พร้อมของกลางจำนวนมากซึ่งในเวลาขณะนี้ยังไม่สามารถลำเอียงไม้ของกลางออกมาดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายได้หมด ปฏิบัติการยังคงมีการดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ โดยมีการจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ให้รับทราบและเข้าใจต่อการปฏิบัติการของคณะเจ้าหน้าที่ ไม่ให้ทำผิดกฎหมายร่วมขบวนการลักลอบทำไม้ดังกล่าวไปพร้อมๆ กันด้วย
