สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า มีรายงานหน่วยงานของรัฐและภาคธุรกิจถูกโจมตีโดยหนอนคอมพิวเตอร์ “วอนนาคราย” ในวันเดียวกันนี้ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์การทำงาน ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจส่งผลกระทบในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากพนักงานบริษัทและหน่วยงานต่างๆ จะเริ่มเปิดคอมพิวเตอร์และเช็กอีเมล์
หนอนคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกค่าไถ่นั้นส่งผลกระทบกับคอมพิวเตอร์มากกว่า 200,000 เครื่องทั่วโลก ใน 150 ประเทศ โดยส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านอีเมล์ ส่งผลกระทบต่อโรงงาน โรงพยาบาล ร้านค้า และสถานศึกษาทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หนอนคอมพิวเตอร์ที่เล็ดลอดเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และล็อกไฟล์เพื่อเรียกค่าไถ่นั้น อาจส่งผลกระทบมากกว่าที่เห็น เนื่องจากบางบริษัทที่ถูกโจมตีจะระมัดระวังที่จะเปิดเผยเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณะ
ไมเคิล กาเซเลย์ ผู้อำนวยการบริษัทเน็ตเวิร์คบ็อกซ์ บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของฮ่องกง ระบุว่า ยังคงมีระเบิดเวลาจำนวนมากรออยู่ในกล่องจดหมาย ในพื้นที่เอเชีย
บริษัทเปโตรไชน่า บริษัทน้ำมันของจีน ระบุว่า ระบบการชำระเงินของบริษัทในสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งได้รับผลกระทบ ขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลหลายแห่ง รวมถึงหน่วยงานตำรวจจราจร มีรายงานว่าได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ระบุว่า ในญี่ปุ่นพบคอมพิวเตอร์ถูกยึดข้อมูลใน 2 กรณีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุที่เกิดขี้นที่โรงพยาบาล 1 กรณี และเป็นคอมพิวเตอร์ของประชาชน 1 กรณี ขณะที่บริษัทฮิตาชิ ระบุว่ามีการโจมตีที่ส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถรับและส่งอีเมล์ หรือบางกรณีไม่สามารถเปิดไฟล์แนบได้
ขณะที่โรงพยาลรักษามะเร็งแห่งใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา ได้รับผลกระทบส่งผลให้มีผู้ป่วยราว 100-200 คน ต้องรอห้องพัก ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีผู้ป่วยบางรายต้องกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มด้วยตัวเอง ขณะที่โรงพยาบาลระบุว่า ระบบสามารถกลับมาออนไลน์ได้แล้ว 70 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ การโจมตีไซเบอร์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับตลาดการเงินของเอเชียเท่าไรนัก เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
