จากกรณี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ จับกุมตัว นายวริทธิ์นันท์ โปรานานนท์ และ เพื่อนอีกคน ได้ ขณะลักลอบ ดำน้ำ ใช้ปืนฉมวกยิงปลา บริเวณ หมู่เกาะ ห้า ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จับกุมพร้อมอุปกรณ์ยิงปลาและปลาเก๋าหนัก 10 กก. แต่ขณะที่นำผู้ต้องหาทั้งสองคนมาเปลี่ยนเสื้อผ้า บนเรือยอร์ชชื่อ lsakindofmagic ที่จอดรออยู่ กับตันเรือได้ ขับเรือหลบหนีไปได้ พร้อมคนบนเรือ รวม 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 17 พฤษภาคม ร้อยตำรวจเอก วุฒิชัย แก้วทอง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้รับการประสานจาก นายจำนง อาษาดี อายุ 53 ปี เป็นกัปตันเรือยอร์ช ลำที่หลบหนี ติดต่อขอมอบตัว ในอีก 2-3 วันนี้ อย่างไรก็ตาม หากไม่มามอบตัวก็จะออกหมายเรียก ให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาตามนัดจะขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมตัวต่อไป ส่วนเรือยอร์ช ซึ่งเป็นของกลางในการกระทำความผิด ตรวจสอบพบว่า เป็นเรือที่จดทะเบียนในสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชล มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เป็นของกลุ่มนักธุรกิจผู้ประกอบการรีสอร์ตบนเกาะเต่าและธุรกิจผลิตกระจกรายใหญ่ของประเทศไทย ได้แจ้งเข้าประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่อุทยานได้ประสาน ทหารกองทัพเรือภาค 3 ให้ช่วยติดตามเรือลำดังกล่าวมาดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากอยู่ในความสนใจของประชาชน ขณะที่ชมรมนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการคดีและติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาล่าช้า ซึ่งหากผู้ต้องหาเป็นชาวประมง ก็จะถูกจับกุมตัวดำเนินคดีโดยทันที
นายกรรณเกษม มีสุข หัวหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า สำหรับโทษข้อหาลักลอบจับสัตว์น้ำในเขตอุทยานแห่งชาติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อกล่าวหาหลบหนี หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบเรือของกลาง