‘ออกแบบ’ เล่าวินาทีฉลาดเกมส์โกงในชีวิตจริง ที่ “สั่นยิ่งกว่าในหนัง”

นาทีนี้ใครๆก็ติดใจ ‘ครูพี่ลิน’ นักแสดงนำจากภาพยนตร์ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ผู้มีรูปร่างดี หน้าตาเก๋ ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน เหมือนอย่างเพลงที่ป้าง-นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ว่าไว้

“ขอบคุณค่ะ” ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุข รับคำชมด้วยคำพูดดังกล่าว และรอยยิ้มกว้าง

ก่อนตอบคำถามเรื่องชื่อ ที่ใครๆก็สนใจ ด้วยเหตุที่แปลก แหวกเกินจะคิดว่ามีคนนำมาตั้งเป็นชื่อเล่น ว่าชื่อนี้พ่อผู้เป็นวิศวกรโยธาซึ่งทำงานกับร่วมกับสถาปนิกบ่อยครั้ง จนติดคำๆนี้ อีกทั้งวันที่ 2 ก.พ. อันเป็นวันที่เธอเกิดก็ตรงกับวันนักประดิษฐิ์โลก ที่บ้านเลยคิดว่าชื่อนี้ละ เหมาะแล้ว

ออกแบบซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เล่าว่า ก่อนหน้าจะแสดงหนัง เธอเป็นนางแบบมาแล้ว 5 ปี เคยเล่นเอ็มวี ถ่ายโฆษณา ก่อนที่แฟนของบาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ จะมาชวน

Advertisement

“เขาเห็นจากอินสตาแกรม บอกว่าหน้าได้ โหงวเฮ้งได้” แต่กระนั้นกว่าจะได้เล่นจริงก็ต้องฝ่าฟันการแคสต์กับผู้คนจำนวนมาก มากชนิดที่พอเห็นแล้ว “ไม่หวังเลยค่ะ” บอกพลางยิ้ม

เล่าอีกว่ากว่าจะแสดงได้อย่างที่เห็นในจอ เธอต้องปรับตัวหลายสิ่ง และเรียนรู้เรื่องการแสดงหลายอย่าง ทั้งการแอ๊คติ้งที่่ก่อนหน้านี้ติดท่าโพสต์อย่างนางแบบมากไป เรื่องการต้องใช้มือซ้ายให้เหมาะกับบ

Advertisement

ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับออกแบบคือการคีพคาแรคเตอร์ในทุกซีน ทุกเวลา ทุกวันที่ต้องมาถ่ายให้คงที่ “เรายังทำไม่ได้ ไม่เหมือนเพื่อนอีก 3 คนที่เขาทำได้”

ซึ่งพอเห็นอย่างนั้น “นอยด์ค่ะ” เจ้าตัวสารภาพ

“จะชอบคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงเพื่อน เพราะเราใหม่ เราไม่มีประสบการณ์ พอวันไหนที่เราทำไม่ได้ เป็นแบดเดย์ ก็จะเฟลมากๆ”

โชคดีที่ใครๆก็เข้าใจ พร้อมให้แนวคิด “เขาบอก ยูจะคิดแบบนี้ไม่ได้ มันจะทำให้เล่นต่อไม่ได้ ยูต้องมูฟออน เพราะนักแสดงที่ดีจริงๆ ที่เล่นไม่ได้ คัทต่อไปต้องเล่นให้ดีกว่าเดิม ซึ่งมันเป็นคำพูดที่จริง”

ฟังแล้วก็เลยฮึด จนก้าวผ่านมาได้ในที่สุด

ออกแบบในวัย 21 ปี เล่าด้วยว่ากับผู้ที่ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกัน ทุกคนน่ารักมาก หากในบรรดานั้นที่เธอรักที่สุด คือธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ผู้รับบทเป็นพ่อในเรื่อง ซึ่งพอเล่นไป พูดคุยกันไป ก็รู้สึกสนิทใจจนเหมือนกับเป็นพ่อจริงๆอีกคน

“ขอเรียกว่าป๊าเลย” ออกแบบเล่าพลางหัวเราะ

“ตอนเข้าเวิร์คช้อปกับป๊าก็จะคุยกัน จูนตัวละครกัน เราเล่าเรื่องทางบ้านของเราทั้งหมด ป๊าก็จะเล่าเรื่องทางบ้านของป๊าทั้งหมด แล้วเหมือนด้วยความเป็นพ่อ เขาก็จะรู้ว่าเด็กเป็นยังไง เลยจูนเข้าหาเรา เราก็ค่อยๆจูนเข้าหา ด้วยการกลับไปคุยกับคุณพ่อที่บ้าน คือจริงๆแล้วออกแบบสนิทกับแม่มากๆ กับพ่อก่อนหน้านั้นความปฎิสัมพันธ์มันน้อย”

แต่เพราะการต้องจูนตัวละครดังว่า เธอเลยต้องเขยิบเข้าหาพ่อมากขึ้น ซึ่งผลก็คือ ตอนนี้ความสัมพันธ์ ความสนิทสนมกับพ่อเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ

“ต้องบอกว่าขอบคุณป๊าเอกมากๆ ขอบคุณฉลาดเกมส์โกงด้วย ที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น”

ถามออกแบบไปว่า ในเรื่องน่ะเธอรับบทเป็นคนเก่งที่คอยช่วยให้คนอื่นโกงข้อสอบ แล้วชีวิตจริงล่ะ?

คำตอบที่บอกมาโดยไม่เสียเวลาคิดคือ ชีวิตจริงเธออยู่ฝ่าย “เคยโกง”

ครั้งแรกคือตอนเรียนชั้นประถม ที่โจทย์ในการสอบคือให้เขียนเรียงความภาษาอังกฤษความยาว 1 หน้ากระดาษ ที่ไม่ใช่แค่เธอ แต่เด็กร่วมโรงเรียนหลายคนก็ใช้วิธีการเอาการบ้านลักษณะเดียวกันที่อาจารย์เคยให้ทำ มาซ่อนไว้ใต้โต๊ะ เพราะตามปกติแล้วอาจารย์จะไม่ค่อยตรวจ

แต่ๆๆๆ…แต่ปรากฏว่ามีคนหนึ่งโดนจับได้ “เขาเลยค่อยๆ ไล่ทั้งสายชั้นเลยนะ ตรวจใต้เก๊ะที่โต๊ะ เรากลัวมากเลยแอบไว้ใต้กระดาษข้อสอบ อาจารย์เลยไม่เจอ เป็นคนเดียวที่รอดในห้อง”

“คือเกลียดตัวเองที่รู้สึกภูมิใจตอนนี้ในการพูด” ออกแบบเล่า

ก่อนจะบอกว่า เอาเข้าจริงสิ่งที่ทำไปมันไม่ดีหรอก ทั้งการโกงที่ผ่านมาได้คนเดียวในห้อง และคะแนนที่ได้

คะแนนซึ่ง “เราก็ไม่ได้ภูมิใจหรอก” บอกความรู้สึก

แต่ ณ ตอนนั้น ยังคิดไมได้ ยังไม่ตระหนัก ด้วยเหตุนี้ตอนที่เรียนมัธยมจึงเตรียมจะ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ อีกครั้ง

“เรียน ศิลป์-จีน แล้วตอนนั้นยังปรับตัวไม่ได้กับภาษาจีน ก็แอบจดโพยเล็กๆ แล้วอาจารย์ก็เซอร์ไพร์ส ด้วยการพาไปสอบที่โรงอาหาร  โต๊ะยาวมาก คือทั้งห้องนั่งห่างกันลิบ กลัวอาจารย์จับได้มากๆ เพราะว่ามันโล่ง ถ้าดุ๊กดิ๊กนิดนึงคงเห็น ตอนนั้นมือสั่นมาก สั่นยิ่งกว่าที่ลินสั่นในเรื่องอีก จนทนไม่ไหว ต้องขยำแล้วปาทิ้ง ยอมให้เกรดที่ออกมาช่างมัน เลือกที่จะไม่ลอก เพราะมีเพื่อนโดนกาหัวข้อสอบ เลยแบบยิ่งสั่น” ออกแบบย้อนเล่าความรู้สึก

แล้วจึงว่า นับจากนั้นก็ลาขาดกับความคิดที่จะโกงข้อสอบอีก

จากนางแบบมาสู่การแสดง ออกแบบบอกว่าสิ่งที่ได้พบ ทำให้รู้สึกสนุก และได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ

หนึ่งในนั้นที่ได้เรียนรู้ คือ “ได้การมองโลกใหม่”

“ขอใช้คำนี้ได้ไหมคะ คำว่าช่างแม่ง คือการที่ต้องมูฟออนของตัวละคร มันเอาไปใช้ได้กับทุกเรื่อง”

อะไรที่ทำไม่ได้ ทำไม่ดี แทนที่จะมัวแต่นอยด์ ก็ตัดความรู้สึกนั้นไป ไม่ต้องยึดคิด คิดเพียงว่าเมื่อได้ทำครั้งใหม่ ต้องทำให้ได้ ทำให้ดีขึ้น

แค่นั้นพอ

“ซึ่งพอเราคิดอย่างนั้น ตัดความรู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ เราก็จะทำอย่างอื่นได้ดีขึ้น”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image