เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ แถลงถึงการดำเนินการ “โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง” ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม โดยมีนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กรุ๊ป นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ผลิตไฟฟ้าสถิตราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด ร่วมแถลงข่าว
นายคีรี แถลงว่า ถือว่าประสบความสำเร็จในการเป็นทางเลือกที่สำคัญในการเดินทางให้กับคนกรุงเทพฯ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยแก้ไขปัญหาการเดินทาง การจราจรที่ติดขัด โดยร่วมกับ บมจ.ซิโน-ไทยฯ และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ รวมเป็นกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ เสนอ 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เพื่อขยายเส้นทางเข้าไปในศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร (กม.) ประกอบด้วย 2 สถานี ได้แก่ สถานีแรกตั้งอยู่บริเวณอาคารอิมแพคชาเลนเจอร์ และสถานีที่ 2 บริเวณทะเลสาบ โดยแยกออกจากสถานีศรีรัช ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งมีจุดสิ้นสุดที่แยกรัชดาตัดถนนลาดพร้าว บีเอสอาร์เสนอให้ขยายเส้นทางต่อไปตามถนนรัชดาภิเษกอีกประมาณ 2.6 กม. สิ้นสุดบริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานี N10 พร้อมเสนอให้มีสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 2 สถานี คือ สถานีแรกอยู่ประมาณกึ่งกลางของเส้นทางส่วนต่อขยาย และสถานนีสุดท้ายบริเวณก่อนถึงแยกรัชโยธิน
“บริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท เมื่อก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเวลา 3 ปี 3 เดือน ผู้โดยสารจะสามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวกันเดินทางได้ทั้ง 3 ระบบ คือ สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีเหลือง โดยไม่ต้องออกจากระบบ ซึ่งรวมระยะทางให้บริการจาก 67 กม.เป็น 141 กม. และในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ การรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์จะร่วมลงนามสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองย่างเป็นทางการ” นายคีรี กล่าวและว่า สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสีชมพู 54,000 ล้านบาท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสีเหลือง 52,000 ล้านบาท และส่วนต่อขยาย 6,000 ล้านบาท ใช้ตู้โดยสารทั้งหมด 288 ตู้ แบ่งเป็น สายสีเหลือง 120 ตู้ และสายสีชมพู 168 ตู้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนต่อขยายในสายสีชมพูและสีเหลือง ขณะนี้ยังไม่ได้รับอนุมัติจาก ครม.ใช่หรือไม่ แล้วขั้นตอนจากนี้จะดำเนินการอย่างไร นายคีรี กล่าวว่า บีเอสอาร์ได้เสนอรายละเอียดเพิ่มเติมในการประมูลสัมปทาน แต่เท่าที่ทราบ ครม.ยินดีให้ส่วนต่อขยายเกิดขึ้นเพื่อการเดินรถสมบูรณ์ แต่เนื่องจากไม่เคยอยู่ในแผนแม่บท บีเอสอาร์จะเร่งศึกษารายละเอียดทั้งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อจะได้เริ่มดำเนินการทันที คาดว่าใช้เวลาศึกษา 1 ปี
เมื่อถามว่าจะกำหนดค่าโดยสารเท่าใด นายคีรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้กำหนดค่าโดยสาร 14-42 บาท
