เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังนำคณะลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเร่งระบายบริเวณถนนสุขุมวิท ช่วงสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เขตบางนา ภายหลังเกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ดังกล่าวว่า พื้นที่ตั้งแต่คลองบางนาถึงคลองสำโรงเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างเขตบางนา และ จ.สมุทรปราการ โดยตั้งแต่คลองบางนาถึงซอยแบริ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของ กทม. ส่วนตั้งแต่ซอยแบริ่งถึงคลองสำโรงเป็นพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และถนนสุขุมวิทอยู่ในการดูแลของกรมทางหลวง ทั้งนี้จากการหารือร่วมกัน เบื้องต้นพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ต่างระดับมีปัญหาน้ำเร่งระบาย ที่ประชุมจึงมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า สืบเนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อ ควรบริหารจัดการน้ำร่วมกัน ด้วยการดึงน้ำส่วนหนึ่งสู่คลองในพื้นที่เขตบางนาและอีกส่วนดึงสู่คลองสำโรง จ.สมุทรปราการ รวมถึง กทม.จะได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 16 ตัว มีกำลังสูบรวม 14 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และกรมทางหลวง กับ จ.สมุทรปราการ จะดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำตั้งแต่ซอยแบริ่งจนถึงคลองสำโรงด้วย มั่นใจว่าวิธีดังกล่าวจะสามารถบริหารจัดการน้ำรอระบายได้อย่างรวดเร็ว
“ทั้งนี้ สำนักงานเขตบางนาจะดำเนินการตั้งกองอำนวยการร่วมบริเวณปากซอยลาซาล ประกอบด้วย สำนักการระบายน้ำ กทม. สำนักงานเขตบางนา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทางหลวง เทศบาลสำโรงเหนือ เทศบาลสำโรงใต้ ดำเนินการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยก่อนฝนตก สำนักการระบายน้ำ กทม.จะแจ้งไปยังสำนักงานเขตบางนา เพื่อเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประจำจุดต่อไป” นายจักกพันธุ์ กล่าว
