ทำรายงานส่งอาจารย์ได้ C แต่อีก 35 ปีต่อมาอาจารย์แก้ให้เป็น A+ เฉยเลย โดย:โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

เกรกอรี วัตสัน แสดงใบแก้ไขเกรดจาก C เป็น A+ ในวิชารัฐศาสตร์เบื้องต้น
บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราที่ 27 อย่างเป็นทางการ

 

เรื่องเริ่มต้นขึ้นใน พ.ศ.2525 เมื่อนายเกรกอรี วัตสัน อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน ได้เข้าไปค้นคว้าในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเพื่อทำรายงานส่งอาจารย์อันเป็นภาคบังคับในวิชารัฐศาสตร์เบื้องต้น ซึ่งนายวัตสันตั้งใจจะทำรายงานเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันโดยเขาไปพบหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนถึงประวัติของบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา ส่งไปให้รัฐสภาของบรรดามลรัฐรับรอง โดยรัฐสภาของมลรัฐรับรองไม่ถึง 3 ใน 4 ของมลรัฐทั้งหมด จึงไม่ได้อยู่ในส่วนของรัฐธรรมนูญซึ่งมีอยู่มากมายเหลือเกิน แต่มีบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ผ่านการรับรองบทหนึ่งที่เตะตาของนายวัตสันอย่างมากเขียนว่า

“กฎหมายใดๆ อันเกี่ยวข้องกับอัตราเงินเดือนของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมีผลใช้บังคับไม่ได้จนกว่าภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยต่อไป” ซึ่งหมายความว่าหากนักการเมืองโหวตกฎหมายขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองแล้ว จะยังใช้บังคับไม่ได้จนกว่าหลังจากมีการเลือกตั้งคราวต่อไปเสร็จสิ้นลงและนักการเมืองชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภาแล้ว จึงจะเริ่มรับเงินเดือนใหม่ที่ขึ้นโดยนักการเมืองชุดที่แล้วได้นั่นเอง ซึ่งเป็นการให้ประชาชนตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งใหม่นั้นอย่างเต็มที่นั่นเอง

บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้เสนอโดยอดีตประธานาธิบดีเจมส์ เมดิสัน เมื่อ พ.ศ.2332 (หลังกรุงศรีอยุธยาแตก 2 ปี) โดยเมดิสันตั้งใจให้เป็นบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราที่ 11 ต่อจากบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 10 มาตราแรกที่เรียกรวมกันว่า “บิล ออฟ ไรท์” แต่บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรานี้ผ่านการรับรองจากรัฐสภาของบรรดามลรัฐไปแล้ว 9 มลรัฐเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้วยังไม่ถึง 2 ใน 3 ของมลรัฐ 13 มลรัฐในขณะนั้น

Advertisement

แต่อย่างไรก็ตาม บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้ยังไม่หมดอายุความในการให้การรับรองจากมลรัฐทั้งหมดที่เหลือซึ่งใน พ.ศ.2525 นั้นยังขาดอยู่ 29 มลรัฐ เนื่องจากสหรัฐประกอบด้วย 50 มลรัฐ เนื่องจาก 9 มลรัฐรับรองบทแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ไปแล้วนั่นเอง

วัตสันจึงทำรายงานเรื่องความน่าจะเป็นในการนำบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของเมดิสันเข้าไปบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐผ่านทางการรณรงค์หาเสียงจากบรรดานักการเมืองและประชาชนชาวอเมริกันในอีก 29 มลรัฐ เมื่อเขาส่งรายงานที่มีเหตุผลและมีความน่าจะเป็นประกอบกับการอ้างอิงที่เพียบพร้อม แต่ผลปรากฏว่าเขาได้เกรด C จากรายงานนี้ ซึ่งเขาก็ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ไปยัง อ.ชาร์ลอน เวท แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าเกรด C ที่เขาได้รับนั้นเหมาะสมแล้ว เนื่องจากการเพิ่มเติมบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นยากลำบากแสนเข็ญเพราะว่ามีเพียง 26 มาตราของบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประวัติศาสตร์ 220 ปีของสหรัฐ และมีเพียงบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 15 มาตราที่ได้รับการบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ พ.ศ.2346 (สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)

นายเกรกอรี วัตสัน จึงตัดสินใจทำการรณรงค์เพื่อให้บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรานี้ให้ผ่านการรับรองของมลรัฐต่างๆ 29 มลรัฐให้ได้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มเขียนจดหมายชักชวนนักการเมืองและชาวอเมริกันให้ช่วยกันรณรงค์ ซึ่งในระยะแรกก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งวุฒิสมาชิกวิลเลียม โคเฮน แห่งมลรัฐเมน ซึ่งเป็นมลรัฐเล็กๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐได้ช่วยผลักดันให้รัฐสภาของมลรัฐเมนรับรองบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นมลรัฐที่ 10 หลังจาก 9 มลรัฐได้รับรองไปก่อนแล้วร่วม 200 ปี

Advertisement

วัตสันจึงเกิดความฮึกเหิมระดมเขียนจดหมายชักชวนการรับรองบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญส่งไปยังนักการเมืองทั่วทุกมลรัฐ จนในที่สุดในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2535 เป็นเวลา 10 ปีพอดีที่วัตสันเริ่มรณรงค์หลังจากที่เขาได้เกรด C จาก อ.ชาร์ลอน เวท บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 27 ก็ผ่านการรับรองจากบรรดามลรัฐจำนวน 2 ใน 3 ได้สำเร็จ โดยมีมลรัฐอลาบามาเป็นมลรัฐที่ 38 ที่ทำให้ถึงหลักชัย

แต่วัตสันยังต้องคอยถึง 35 ปีนะครับกว่า อ.ชาร์ลอน เวท เธอจะตัดสินใจแก้ไขเกรดให้เป็น A+ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2560 โดยให้เหตุผลว่า

“จากการที่ได้พบว่านักศึกษาได้กระทำการที่เป็นวีรกรรมที่พิสูจน์ว่าอาจารย์และผู้ช่วยสอนได้ร่วมกันใช้วิจารณญาณที่ผิดในการประเมินรายงานของเขา คุณวัตสันสมควรที่จะได้เกรด A+”

ในที่สุด ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2560 คณบดีของคณะบริหารธุรกิจ แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน ก็ได้ลงนามแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกรดให้แก่วัตสันอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายเกรกอรี วัตสัน กล่าวในวาระแห่งการแก้ไขเกรดจาก C เป็น A+ ครั้งนี้ว่า

“มันควรจะเกิดขึ้นกว่า 3 ทศวรรษแล้ว มันกินเวลานานเกินไป นี่พูดแบบดีๆ มากแล้วนะ แต่ก็นั่นแหละ ตามสุภาษิตว่า เกิดขึ้นสายไปก็ยังดีกว่าไม่เกิดขึ้นเลย”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image