โซลาร์ฟาร์ม 300 ล้านส่อวุ่น ผจก.รับ ขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี สั่งสมาชิกระงับถอนทุนหุ้น

โครงการโซล่ร์ฟาร์ม 300 ล้านส่อวุ่นจากเงื่อนไขรับสัมปทาน หลัง รก.ผู้จัดการยอมรับสหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อยขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี ล่าสุดนายทะเบียนสั่งสมาชิกระงับถอนทุนหุ้น

วันที่ 8 มิถุนายน นายเผ่าเทพ หัสไท รองประธานคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย และที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ในฐานะเลขานุการสภาทนายความ จ. ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย จับกุมนายภูวนารถ ชูชม อดีตผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย จำกัด ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง โดยผู้ต้องหารับสารภาพเบื้องต้นว่าได้เบิกเงิน 3.7 แสนบาท จากค่ากระแสไฟฟ้าของโครงการโซลาร์ฟาร์มของสหกรณ์ จากนั้นศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์เงินสด 90,000 บาท นั้น จากการตรวจสอบพบว่าหลายปีที่ผ่านมาสหกรณ์มีการทุจริต จากการปลอมแปลงเอกสารของสมาชิกผู้กู้ มีวงเงินเสียหายกว่า 21 ล้านบาท และฝ่ายกฎหมายได้รวบรวมมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับ คณะพนักงานสอบสวน 14 นายจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดในฐานะฝ่ายกำกับดูแลเพื่อให้นำเงินที่ถูกโกงทั้งหมดกลับเข้าสู่ระบบโดยเร็ว แต่ทราบว่าขบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงล่าช้าเป็นอย่างมาก

“ขณะนี้สมาชิกสหกรณ์จำนวนมากไม่มั่นใจในระบบการบริหารจัดการ ดังนั้นกรรมการจึงต้องดำเนินการกอบกู้ศรัทธาสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็ว และ ยืนยันว่าสหกรณ์ยังมีทุนหมุนเวียนไม่ได้ประสบภาวะวิกฤตทางการเงินตามที่มีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือ ล่าสุดได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ให้ใช้อำนาจพิเศษเพื่อติดตามเส้นทางการเงินและการถ่ายโอนทรัพย์สินทั้งหมดของผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากหลายฝ่ายเกรงว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีในระหว่างการพิจารณาคดี ประกอบกับขณะนี้สหกรณ์ไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอในวางเงินค่าธรรมเนียมศาลจากการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับผู้เกี่ยวข้อง หลังจากมีการทุจริตในสหกรณ์นานกว่า 10 ปี มีการร่วมมือจากหลายฝ่ายเป็นขบวนการใหญ่ “

นายเผ่าเทพ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาจากการทำโครงโซล่าฟาร์มมูลค่า 300 ล้านบาท ในพื้นที่ 50 ไร่ ยืนยันว่าสหกรณ์ทำสัญญาในลักษณะเสียเปรียบจากการเช่าใช้ที่ดินจากเครือญาติของอดีตผู้จัดการสหกรณ์ รวมทั้งการขออนุญาตใช้พื้นที่จากองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) บางสะพาน อ.บางสะพานน้อยมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เนื่องจากที่ดินทั้งแปลงอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบางสะพาน มีผลกระทบกับการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างสหกรณ์กับบริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ( มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ลงทุน ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากต้องยื่นขออนุญาตจากเทศบาล และ ต้องทำประชาคมใหม่ทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบการยื่นใบ รง 4 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม

Advertisement

“ ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน( กกพ.) กรมส่งเสริมสหกรณ์ ต้องร่วมกันพิจารณาให้ชัดเจนว่า เมื่อกระบวนการต้องเริ่มต้นใหม่ และ พบปัญหาทุจริตเกิดขึ้น สหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อยจะเข้าเงื่อนไข ในการรับสัมปทานเพื่อทำโครงการดังกล่าวหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายของสหกรณ์ฯจะยื่นฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กับ อบต.บางสะพาน และทราบว่าบริษัทฯผู้เสียหายจะยื่นฟ้องอดีตผู้จัดการสหกรณ์ และ อบต.บางสะพาน เพราะการประกอบกิจการมีผลกระทบกับการลงทุนของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์”

ด้าน นายมนตรี รอดภัย รักษาการ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร อ.บางสะพานน้อย กล่าวว่า ขณะนี้มีสมาชิกบางส่วนต้องการถอนเงินออกจากระบบและลาออกจากสมาชิก แต่มีการสั่งระงับห้ามจากนายทะเบียนห้ามถอนทุนเรือนหุ้น แต่สามารถถอนเงินฝากได้ตามปกติแต่ต้องพยายามทำความเข้าใจกับผู้ถอนทุกราย ขณะที่สหกรณ์ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี ซึ่งยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวอาจจะทำให้ผิดเงื่อนไขในการทำโครงการโซล่าฟาร์มหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสหกรณ์การเกษตรที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ต้องจดทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานสหกรณ์ ประจำปี 2558 ตามประกาศของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และในระยะดำเนินการ 2 ปีที่ผ่านมา ต้องไม่มีข้อบกพร่องหรือปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ และต้องยื่นคำขอต่อ กกพ. ในระหว่างวันที่ 1-10 พฤศจิกายน 2558 ทั้งนี้ การผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ ใช้พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ โดยสหกรณ์ภาคการเกษตรได้รับโควต้าในการผลิตไฟฟ้าแห่งละไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ ใช้ที่ดินประมาณ 50-60 ไร่ ใช้เงินทุนประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อโครงการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image