“ราชดำเนินเสวนา”ชี้ ข่าวเปรี้ยวสะท้อนสังคม-สื่อ-ตำรวจป่วย กันหมด

วันที่ 9 มิถุนายน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดราชดำเนินเสวนา หัวข้อ “ข่าวเปรี้ยว ข่าวเปรี้ยง สะท้อนความป่วยไข้ของสังคมไทย ?” โดยมีนายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นส.กนกพร ประสิทธิ์ผล นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ผศ.วรัชญ์ ครุจิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์การ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล ผู้อำนวยการเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ และนพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมเสวนา

ผศ.วรัชญ์ กล่าวว่า จากข่าวเปรี้ยวสังคมไทยป่วยเป็นโรค 5 ประเภท ได้แก่ 1.โรคนิยมความดัง คือ นิยมเน็ตไอดอล โดยไม่สนว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม แม้แต่นักเลงและอันธพาล ถามว่าผลักดันถูกต้องหรือไม่ 2. โรคกลัวตกขบวนความดัง ต้องติดตามอยู่ตลอด 3.โรคฉาบฉวย สังคมไทยละเอียดอ่อนน้อยลง เกิดความหยาบมากขึ้น 4.โรคคิดไม่รอบคอบ เช่น การโพสต์ภาพขายหมอน พวงกุญแจ และ 5. โรคนิยมความรุนแรง ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ข่าวเปรี้ยว แต่เกิดมานอนแล้วเพราะภาพความรุนแรงที่สื่อสะท้อนออกไป กลายเป็นความชินชา นิ่งเฉย จนทุกวันนี้คนไทยมองเป็นเรื่องกึ่งบันเทิง

ผศ.วรัชญ์ กล่าวว่า ขณะที่สื่อมวลชนก็ป่วยเป็น 5 โรคเช่นกัน ได้แก่ 1.โรคกลัวตกข่าว 2.โรคห่วงเรทติ้ง 3.โรคติดดราม่า 4.โรคควบคุมตัวเองไม่ได้ แม้รู้ว่าข่าวนี้ไม่ดี แต่ยังคงนำเสนอต่อไป และ 5.โรคไร้กรอบจริยธรรม ทางออกประกอบด้วย 5 ข้อ 1.สื่อหลักต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่าแตกต่างจากสื่อออนไลน์ทั่วไปอย่างไร นำเสนอข่าวให้เหมาะสมในฐานะองค์กรที่มีผู้สื่อข่าว ไม่ใช่เป็นการก็อปปี้มาจากเน็ต แชร์มาจากเพจหรือบุคคลสำคัญ ฉะนั้นควรทำให้เหมาะสมศักดิ์ศรี 2.สมาคมนักข่าวฯ ต้องเข้มแข็งสามารถต่อรองกับรัฐบาล เพื่อนำเสนอข่าวอย่างมีคุณภาพ 3.สร้างประชาชนให้ตื่นตัวในการรับรู้เท่าทันสื่อ 4.ภาครัฐต้องมีบทบาทในการสนับสนุนและกลไกที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาสื่อ 5.ในระยะยาวหาแนวทางจะทำอย่างไรให้เกิดความรู้เท่าทันสื่อในผู้บริโภคทุกคนและสื่อควรตระหนักว่าไม่ให้ละเมิดสิทธิผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทางสังคม

นส.กนกพร กล่าวว่า ปฎิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้สื่อออนไลน์มีมากขึ้นจนก่อให้เกิดหลายปัญหา อันดับแรกคือ ประชาชนแยกแยกสื่อวิชาชีพไม่ได้ ต่อมา ความสนใจของประชาชน ที่สื่อจำเป็นต้องทำเนื้อหาในสิ่งที่ประชาชนควรจะรู้และอยากรู้ กลับกันข่าวเปรี้ยวสื่อกลับนำเสนอสิ่งที่คนอยากรู้ ไม่ผลักดันสิ่งที่ประชาชนควรจะรู้มากกว่า

Advertisement

นายปราเมศ กล่าวว่า ข่าวเปรี้ยวสามารถนำเสนอได้หลากหลายมุมมอง อาทิ การศึกษาทางวิชาการว่าการฆ่าทำไมนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เปิดโปงขบวนค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องว่ามีกี่ชบวนการเข้ามาเกี่ยวข้องหรือทำไมไม่สามารถขจัดปัญหานี้ให้สิ้นซากไป ในส่วนรัฐบาลก็จะต้องเข้ามาดำเนินการร่วมกันด้วย ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ให้ข่าวเปรี้ยวช่วยสอนอะไรแแก่สังคมได้บ้างก่อนที่กำลังจะหายไป แม้ทุกวันนี้ทั้งประชาชน สื่อมวลชน และรัฐเองยังงุนงงว่า แท้จริงแล้วความหมายของสื่อคืออะไร ขณะที่รัฐยิ่งออกกฎหมายควบคุมสื่ออีกถามว่าจะช่วยควบคุมอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image