เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เครือข่ายสหวิชาชีพสาธารณสุขชายขอบต้องการบรรจุแห่งประเทศไทย 18 องค์กร อาทิ ชมรมทันตาภิบาลลูกจ้างแห่งประเทศไทย ชมรมลูกจ้างเจ้าพนักงานเวชสถิติแห่งประเทศไทย ชมรมลูกจ้างนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์แห่งประเทศไทย ชมรมลูกจ้างเจ้าพนักงานสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ชมรมลูกจ้างนักวิชาการสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ชมรม ผอ.รพ.สต.ชายแดนใต้ ชมรมทันตาภิบาล 77 จังหวัด เป็นต้น เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อขอบรรจุข้าราชการเนื่องจากบางวิชาชีพไม่ได้รับการบรรจุตั้งแต่พ.ศ.2552 โดยมี พญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัด สธ.เป็นผู้รับมอบ
นาย ภานุพงศ์ ปิ่นแก้ว ประธานเครือข่ายสหวิชาชีพสาธารณสุขชายขอบฯ กล่าวว่า การที่ 18 องค์กรสหวิชาชีพสาธารณสุข ได้มายื่นหนังสือต่อกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจาก มี 20 วิชาชีพที่ต้องการร้องขอบรรจุตำแหน่งข้าราชการที่ตกค้าง ซึ่งบางวิชาชีพตกค้างมาตั้งแต่ปี 2552 อาทิ เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข ตกค้างประมาณ 2,300กว่าคน นักวิชาการสาธารณสุขตกค้างประมาณ 1,000 คน เป็นต้น เพราะต้องการความก้าวหน้าและความมั่นคงของตัวเองและสวัสดิการในการดูแลพ่อแม่ ย ทั้งนี้เห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรได้รับเหมือนกับวิชาชีพอื่น เพราะวิชาชีพเหล่านี้เป็นเหมือนรากแก้ว มีความสำคัญกับกระทรวงสาธารณสุข แต่กลับถูกละเลย จากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยบางสายงานจบออกมาแล้วมีงานทำเลย บางสายงานกลับต้องสอบแข่งขัน แสดงถึงความเหลื่อมล้ำ พร้อมทั้งยังมีการจ้างแบบรายวันทำให้มี หลายคนลาออกเพื่อไปทำงานในเอกชน
นาย ภานุพงศ์ กล่าวอีกว่า เครือข่ายฯ จึงอยากขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข ใน 8 ประเด็น ดังนี้ 1.ขอห้มีการจัดสรรตำแหน่งว่าง หรือกำหนดตำแหน่งใหม่ให้กับเครือข่ายสหวิชาชีพฯ ด้วยความเป็นธรรม 2.ขอให้มีการเพิ่มการบรรจุบุคลากรที่เป็นพนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราว และลูกจ้างทุกประเภท 100% ในทุกวิชาชีพเหมือนกับสายหลัก 3.ขอให้ชี้แจงตำแหน่งที่จะบรรจุในพ.ศ. 2560 ของสหวิชาชีพฯให้ชัดเจน 4.ขอให้มีการเพิ่มอัตรากำลังการบรรจุนักวิชาชีพสาธารณสุขในส่วนภูมิภาค ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 5.พิจารณาค่าตอบแทนทุกฉบับให้เหมาะสมแก่ลูกจ้างทุกประเภทที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ 6.ขอให้ยกเลิกหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2544 (ฉบับที่ 10 ) พ.ศ.2559 เนื่องจากซับซ้อนกับเงินเสี่ยงภัยของข้าราชการของกระทรวงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายภานุพงศ์กล่าวว่า 7. ขอให้ข้าราชการพลเรือนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมกับทุกวิชาชีพ และ 8.ขอให้ข้าราชการพลเรือนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงตำแหน่งในสายงานที่มีการปรับหลักสูตรจากอนุปริญญาเป็นปริญญาตรี เช่น เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข เป็นนักวิชาการสาธารณสุขเป็นต้น เป็นต้น ทั้งนี้หากกระทรวงสาธารณสุขไม่มีการดำเนินการใดๆ จะมีการเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
พญ.ประนอม คำเที่ยง รอง ปลัด สธ.กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือจากกลุ่มสหวิชาชีพฯแล้ว ขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะไม่ทอดทิ้งใคร ทุกวิชาชีพจะก้าวไปพร้อมกัน