บรรยากาศที่ตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีชาวสวนยางพาราในพื้นที่นำยางแผ่นมาจำหน่ายเป็นวันที่ 4 แล้ว หลังจากประสบต่อปัญหาราคายางพาราตกต่ำในช่วงนี้ โดยราคายางแผ่นดิบคุณภาพเมื่อวานนี้ 13 มิ.ย. รับซื้อในราคา 56.10 บาท ต่อกิโลกรัม
เกษตรกรจังหวัดยะลาให้ความสนใจ หลังครม.ได้ประชุม ครม.มีมติให้ขยายเวลาการดำเนินโครงการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ตามโครงการที่เคยอนุมัติไว้เดิม รวม 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.ให้ขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางพาราต่อไปอีก 3 ปี เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2560-31 มี.ค.2563
ราคายางพารายังคงตกต่ำ ทำให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดยะลาเก็บยางสต๊อกเอาไว้ก่อ รอให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจึงจะออกมาจำหน่าย ทำภายในตลาดการยางของจังหวัดยะลาเงียบเหงา และต่อดูท่าทีว่าเมื่อไรราคายางจะสูงขึ้น และเข้าสู้ภาวะปกติ คาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งพบว่าเกษตรชาวส่วนยางหั่นมาทำเป็นน้ำยางและขี้ยางมากว่ายางแผ่น เนื่องจากสะดวกกว่า ได้เงินเร็วกว่า
นายนิพจน์ คงจังหวัด หัวหน้าสำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า เนื่องจากราคายางพาราในช่วงนี้เป็นช่วงตกต่ำ ทางการยางแห่งประเทศไทย สนง.ตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาวิธีการที่จะให้ยางพารามีราคาที่สูงขึ้น ทางการยางแห่งประเทศไทย ก็ได้เรียกประชุมหัวหน้าตลาดกลางยางพาราทั้ง 6 แห่ง หาวิธีการช่วยเหลือ โดยได้ขับเคลื่อนตลาดทั้ง 6 ตลาด ให้เงินทุนหมุนเวียนมาให้เกษตรกร ในกรณีที่มาขายยางพาราให้ตลาดกลางทั้ง 6 ตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำเงินที่ได้ไปหมุนเวียนได้ทันที
ส่วนแนวโน้มราคา เนื่องจากสถานการณ์ต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่มีสต๊อกยางประมาณ 3 แสน และได้ใช้ไปเกือบจะหมดแล้ว โดยสรุปว่าขณะนี้ตลาดโลกก็ยังมีความต้องการยางพาราอยู่ตลอดเวลา ส่วนราคายางเมื่อวานนี้อยู่ที่ 56.88 บาท ก็ขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนราคาจะขึ้นไปถึง 70-80 บาท/กก. ก็จะต้องใช้เวลา เพราะราคายางเกี่ยวข้องต่อต่างประเทศ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงราคายาง เพราะจะกระทบรายได้โดยตรงของเกษตรกร
