ประมงพื้นบ้านตรัง เตรียมยื่นหนังสือค้าน พ.ร.บ.น่านน้ำไทย พร้อมยื่น 4 ข้อเสนอผ่านผู้ว่าฯ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 มิถุนายน ที่มูลนิธิอันดามัน ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชุมชนชายฝั่งทะเลทั้ง 5 อำเภอ 65 หมู่บ้านใน จ.ตรัง นำโดยนายอะเหร็น พระคง ประธานชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง, นายแสวง ขุนอาจ กรรมการชมรม ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหา พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 ประเด็นการควบคุมการปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดลงไปในแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ชายหาดสาธารณะ เพื่อประโยชน์ในการรักษาลำน้ำสำหรับการพาณิชยนาวี การเกษตรกรรม และการป้องกันอุทกภัย

นายอะเหร็นกล่าวว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำ ในน้ำ และใต้ของแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเล หรือบนชายหาดของทะเลดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ต้องไปแจ้งการครอบครองภายในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ หากไม่ไปแจ้ง ผู้ครอบครองหรือเจ้าของต้องจ่ายค่าปรับตารางเมตรละ 1,000-20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องจ่ายค่าปรับรายวันไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน ทำให้ชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ชุมชนชายฝั่งและลำคลอง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

“ที่ประชุมมีมติจะเข้ายื่นหนังสือคัดค้าน พ.ร.บ.การเดินเรือดังกล่าวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ พร้อมจะยื่นข้อเรียกร้องจำนวน 4 ข้อ คือ 1.ให้ขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป 1 ปี 2.แก้กฎกระทรวงให้อาคารบ้านเรือน ออกจากสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ 3.ประเมินผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย 4.ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับวิถีชุมชนที่รับรองโดยรัฐธรรมนูญ และเสนอมาตรการที่รัฐกับชุมชนต้องสร้างมาตรการที่เหมาะสม เพื่อรองรับวิถีชุมชนริมน้ำ ริมชายฝั่ง ที่มีหลักประกันสร้างความมั่นคงที่อยู่อาศัยถาวร หรือในกรณีที่มีกิจกรรมธุรกิจก็ให้กำหนดมาตราการที่แยกแยะประเภทกิจกรรมและกำหนดค่าเช่าที่เป็นธรรม หรือให้มีการจัดทำผัง กติกาชุมชนริมน้ำโดยชุมชนร่วมกับท้องถิ่น” นายอะเหร็นกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image