ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ [email protected] |
เผยแพร่ |
มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เป็นข่าวที่น่ายินดี
เมื่อเฟซบุ๊กของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงภาพ รศ.ดร.สุกรีเจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
จับมือกับ Mr.Donagh Collins เอเยนซี่จัดทัวร์คอนเสิร์ตของวงดนตรีระดับโลก
เนื้อหาที่ปรากฏในข่าวระบุว่า “ครั้งแรกของการมาเยือนของ 2 สุดยอดวงออเคสตราระดับโลก London Symphony Orchestra (LSO) และ Berliner Philharmoniker
จะมาทำการแสดงคอนเสิร์ต ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี พ.ศ.2561”
เนื้อความรายละเอียดระบุว่า
“เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน Mr.Donagh Collins ตัวแทนของ London Symphony Orchestra (LSO) และ Berliner Philharmoniker Orchestra ได้ร่วมเซ็นสัญญากับ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการนำ 2 วงออเคสตราที่ดีที่สุดของโลกมาทำการแสดงที่มหิดลสิทธาคาร ในปี พ.ศ.2561
London Symphony Orchestra (LSO) จะมาทำการแสดงคอนเสิร์ตจำนวน 2 รอบ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2561
นำโดยหัวหน้าวาทยกรรับเชิญ Gianandrea Noseda และนักแสดงเดี่ยวเปียโนชื่อดัง Yefim Bronfman
และอีกหนึ่งวงออเคสตราระดับโลก Berliner Philharmoniker จะมาทำการแสดงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2561
นำโดยวาทยกรชื่อดังระดับโลก Gustavo Dudamel”
ตอนท้ายของข่าวตอกย้ำว่า “นี่คือคอนเสิร์ตที่จะต้องถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทย การจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตและโอกาสของผู้สนับสนุนในการมีส่วนร่วมกับคอนเสิร์ตจะประกาศให้ทราบเร็วๆ นี้”
งานนี้แฟนเพลงคลาสสิกและผู้ที่รักในเสียงดนตรี ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง !
จากข่าวที่ปรากฏ คนในแวดวงที่ชื่นชอบวงออเคสตราคงได้เฮ เพราะเนื้อความที่เฟซบุ๊กของวิทยาลัยลงมานั้นไม่ได้เกินเลยความจริง
และการที่วงระดับโลกตกลงที่จะเดินทางมาแสดงในไทยพร้อมกันถึง 2 วงในปีเดียวกัน
ย่อมหมายถึงความเชื่อมั่น
หลังจากได้ข่าว ในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งของวงออเคสตรา อดไม่ได้ที่จะสอบถาม รศ.ดร.สุกรีถึงที่มาที่ไป
รศ.ดร.สุกรีย้อนกลับไปถึงการแสดงของวงบีบีซี ซิมโฟนี ออเคสตรา หรือ BBC SO เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล
การแสดงครั้งนั้นเคยเขียนบอกเล่าบรรยากาศลงไปในคอลัมน์นี้แล้ว
แต่สิ่งที่เพิ่งมารู้ภายหลังก็คือ หลังจากการแสดงจบลง ไม่เพียงแต่ผู้ฟังที่ประทับใจในตัวผู้เล่น วงดนตรีและวาทยกรเท่านั้น
ปรากฏว่าวงดนตรีและผู้เล่นที่มาเปิดการแสดงครั้งนั้นก็ประทับใจผู้ฟังในครั้งนั้นไม่แพ้กัน
แม้ในย่านนี้จะมีการแสดงออเคสตราในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ก็เปิดการแสดงอยู่บ่อยๆ หรือฮ่องกงก็มีการแสดงมาก
แต่สิ่งที่สังเกตแล้วเห็นคือ ผู้ฟังที่ไปชมการแสดงที่สิงคโปร์นั้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นฝรั่ง
อีกแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เป็นคนเอเชีย
แต่สำหรับการแสดงที่มหิดลสิทธาคารเมื่อวันก่อน เขาประเมินว่าผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นคนเอเชีย
เป็นคนไทยนี่แหละเยอะ
สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างที่เขาบอกคือ ผู้ฟังในครั้งนั้นมีคุณภาพ
ฟังแล้ว หูผึ่ง!
เรื่องผู้ฟังนี้เคยได้ยิน รศ.ดร.สุกรีพูดไว้หลายครั้ง
พูดถึงคุณภาพผู้ฟัง พูดถึงการสร้างผู้ฟังเพลงคลาสสิก
ภารกิจอย่างหนึ่งของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลที่ทำมาตลอดคือ สร้างผู้ฟัง
ภารกิจอย่างหนึ่งของวงไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิค ออเคสตรา หรือทีพีโอ ที่บรรเลงบทเพลงมา 12 ฤดูกาลก็คือสร้างผู้ฟัง
ดังนั้น ก่อนที่วงทีพีโอแสดงจะมีอาจารย์ผู้รู้มาเล่าเรื่องราวของบทเพลงตามโปรแกรมให้ฟัง
การแสดงทุกครั้งจะมีสูจิบัตรที่ใส่เนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงอธิบายให้เข้าถึง
ทำให้รู้จักผู้ประพันธ์และเข้าใจเนื้อหา
ระหว่างการแสดงจะมีตัวอักษรบอกว่าบทเพลงที่บรรเลงชื่ออะไร และท่อนที่ได้ยินอยู่นั้นคือท่อนไหน
ทั้งหมดก็เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจ
เมื่อผู้ฟังเข้าใจ เวลาชมการบรรเลง เสียงเพลงจะได้เข้าไปถึงหัวใจ
เกิดเป็นความเบิกบานและกระตุ้นให้กลับมาหาความสำราญจากบทเพลงอื่นๆ ในวาระต่อๆ ไปอีก
แม้ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการสร้างผู้ฟังเพลงคลาสสิกเป็นไปด้วยความยากลำบาก
แต่ในความลำบากก็ยังปรากฏความสำเร็จขึ้นมาให้เห็น
เสียงสะท้อนจากนักดนตรีและวงดนตรีระดับโลกที่ชื่นชมผู้ฟังคนไทย
การบอกเหตุผลการตอบรับมาแสดงในไทยว่าเหตุผลหนึ่งที่เป็นเพราะผู้ฟัง
ทำให้รู้สึกปลาบปลื้ม
ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังการมาเยือนไทยในปีหน้า
ปีหน้า วง London Symphony Orchestra (LSO) และ Berliner Philharmoniker จะมาแสดงในไทย
ใครที่สนใจขอให้เคลียร์เวลาให้ว่าง
แล้วไปร่วมสดับฟังความไพเราะจากบทเพลงที่บรรเลงด้วยฝีมือของวงดนตรีระดับโลก
ไปซึมซาบความสุนทรีย์ ไปตอกย้ำให้ต่างชาติได้เห็น
เห็นคุณภาพของผู้ฟัง เห็นคุณภาพของคนไทย