บี.กริม เพาเวอร์เคาะราคาไอพีโอ 6 ก.ค.นี้ หลังเปิดช่วงราคาจองซื้อที่ 15-16.50 บาท

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวนไม่เกิน 716.9 ล้านหุ้น โดยเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2560 ในราคาหุ้นละ 16.50 บาท ซึ่งเป็นราคาเสนอขายสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายที่ 15-16.50 บาท คาดว่าจะเคาะราคาสุดท้ายได้ในวันที่ 6 กรกฎาคม และประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายได้ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ซึ่งการกำหนดราคาไอพีโอคิดด้วยวิธีส่วนลดกระแสเงินสดโดยราคาดังกล่าวเป็นราคาเหมาะสมและนักลงทุนไม่ควรมองที่ราคาพีอีเทียบกับอุตสาหกรรมเพราะเป็นโรงไฟฟ้าคนละประเภท ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับเงินจากการระดมทุนประมาณ 9,800-10,800 ล้านบาท จากนั้นจะนำเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า SPP และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อขยายธุรกิจ และชำระคืนภาระทางการเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

ทั้งนี้ การจำหน่ายหุ้นดังกล่าวมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัดบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

นางปรียนาถ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้ารักษาการเติบโตในปี 2560 ให้ไม่ต่ำกว่า 18% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 2.77 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเต็มปี 3 แห่ง ที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์โดยจะเริ่มซีโอดีในเดือนกรกฎาคม 2560 และคาดว่าในปี 2560 จะลงนามในสัญญาพีพีเอไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าที่เปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 28 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,626 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 419.1 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 10 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 338.5 เมกะวัตต์ รวมเป็นทั้งสิ้น 2,357 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564

อย่างไรก็ตาม ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี2557 – 2559 รายได้การขายและการให้บริการของบริษัทมีอัตราการเติบโตของ 18.2% ที่ 19,854 ล้านบาท 23,943 ล้านบาท และ 27,747 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้ฯ 7,651 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับในช่วง 5 ปีคือปี 2560 – 2564 บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าทยอยเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและกำลังพัฒนา โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วอย่างน้อยอีก 15 โครงการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image