นับวันรอ!!!กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเล็งปลดล็อคบริษัทปิโตรเลียมเดินหน้าต่อเมื่อม.44มีผลบังคับใช้

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยให้อำนาจแก่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ใน 3 กิจการ ได้แก่ 1.การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2.การวางกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า และ 3.การทำเหมืองแร่ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยถือว่าไม่เป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ของพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่า หากมีความชัดเจนในเรื่องข้อกฎหมาย กรมฯ จะทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับสัมปทานที่ได้รับผลกระทบให้ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้กรมฯ จะร่วมกับ ส.ป.ก.จัดทำรายละเอียดของการกำหนดพื้นที่และขั้นตอนการยื่นคำขอใช้พื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อประกอบกิจการปิโตรเลียมในอนาคตให้มีความชัดเจนและเหมาะสมต่อไป รวมทั้งจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมป่าไม้ กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมเจ้าท่า เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อประกอบกิจการปิโตรเลียมเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานและลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ

“กรมฯไม่ขัดข้องกรณีส.ป.ก.เสนอให้นำผลประโยชน์ที่ได้จากพื้นที่ส่งเข้ากองทุนเพื่อเกษตรกร เพราะที่ผ่านมาการประกอบกิจการปิโตรเลียมได้สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมาก ค่าภาคหลวงที่จัดเก็บได้จะนำส่งกระทรวงการคลัง 40% และจัดสรรกระจายรายได้ให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 60% นอกจากนี้ บริษัทผู้รับสัมปทานยังมีการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนอีกด้วย”นายวีระศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image