‘สมคิด’ยันรถไฟไทย-จีน ไม่เสียประโยชน์ในแผ่นดินตัวเอง แจงแผนลงทุนรัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช ในงานจัดงานสัมมนาผู้ลงทุนในตลาดทุนระดับนานาชาติ “Thailand’s Big Strategic Move”  ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ จัดโดว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ-โคราชเท่านั้น แต่ต้องการเชื่อมต่อไปกับนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road หรือโอบีโออาร์ ) ของจีน ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อการขนส่งด้วยรถไฟไปถึงมาเลเซีย และต้องเชื่อมต่อกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอนุภูมิภาคด้วย ทั้งนี้ในความคิดรัฐบาลไม่ใช่แต่เชื่อมจีนแต่เราต้องการเชื่อมโลก

“รัฐบาลไทยต้องตัดสินใจขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ได้ เพราะอนาคตข้างหน้า การเชื่อมต่อในโครงการโอบีโออาร์ของจีนจะมีกว่า 30 ประเทศร่วม ถ้าไม่มีไทยเราจะพูดได้อย่างไรกว่าเป็นศูนย์กลางอาเซียน เป็นศูนย์กลางซีแอลเอ็มวีที ดังนั้น เราต้องชั่งระหว่างต้นทุนและกำไร” นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวยืนยันว่า ไทยไม่ได้ยกผลประโยชน์ให้กับจีนแต่อย่างใด โครงการที่เกิดขึ้นมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท สัดส่วน 4 หมื่นล้านบาท ที่ให้วิศวกรจีนเข้ามากำเนินการได้ เป็นงานระบบราง รวมทั้งการจ้างที่ปรึกษาและการออกแบบ ขณะมูลค่า 1.4 แสนล้านบาทจะให้คนไทยทำ ทั้งนี้ ที่ดินทั้งสองข้างก็ยังเป็นแผ่นดินไทย เราจะทำอะไรบนแผ่นดินเราก็ได้ จะให้ใครเข้ามาร่วมลงทุนก็ได้เพื่อที่สามารถที่จะพัฒนาพื้นที่ได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม อยากให้มองเรื่องผลตอบแทนเศรษฐกิจจากการลงทุนดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้เกิดการพัฒนาเมืองในระยะต่อไปได้

Advertisement

นายสมคิดกล่าวว่า ที่ผ่านมาการเจรจาติดขัดและเกินเวลามาเล็กน้อยผ่านไปกว่า 3 ปี เพราะบางอย่าง เช่น การลงทุนโครงการลักษณะดังกล่าวรัฐบาลไทยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการ ขณะที่จีน ให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการและรัฐบาลเป็นคนกำกับ หรือกรณีวิศวกรจีนหากจะเข้ามาทำงานในไทยต้องมาสอบใบอนุญาต ถามว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหน หากแปลโจทย์เป็นภาษาอังกฤษสอบตก 1 ข้อ เส้นทางรถไฟที่เขาสร้างมากว่าสองหมื่นกิโลเมตรคืออะไร ส่วนด้านราคากลาง โครงการนี้ไม่ได้เป็นการประกวดราคาแบบทั่วไป แต่เป็นการต่อระหว่างรัฐบาลไทยกับจีน ราคาที่ออกมาคือราคาที่ตกลงกันได้ การใช้กฎหมายมาแก้ไขเป็นการแก้เฉพาะจุดให้โครงการเดินไปได้

นายสมคิดกล่าวว่า ภายในงานสัมมนาในวันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักลงทุนรายใหญ่ 19 ราย ที่มีมูลค่าลงทุน 6.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่ออธิบายให้นักลงทุนเข้าใจว่าที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรบ้าง ซึ่งเขาสะท้อนกลับมาว่าพอใจกับพัฒนาการของไทย แต่คำถามที่เขายังเป็นห่วงคือรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อถ้ามีการเลือกตั้ง และอะไรเป็นเครื่องค้ำประกันว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำจะสานต่อได้ในอนาคต ซึ่งได้บอกไปว่าเหตุการณ์เมืองไทยกำลังเปลี่ยนแปลง แต่รัฐบาลเชื่อว่าทุกสิ่งที่กำลังขับเคลื่อนจะไปข้างหน้าได้ โดยคาดว่าจะพยาพยามผลักดันโครงการใหญ่ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้า 5-6 เส้นทาง ให้ออกมาใน 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ได้ชี้แจงให้นักลงทุนทราบด้วยว่ามาตรการรัฐบาลจะต้องได้รับการสานต่อ ตัวเลขทางเศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้น แม้ว่าข้างล่างจะยังลำบาก แต่รัฐบาลก็พยามเร่งให้ความช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นมองว่าถ้าพยายามรักษาเสถียรภาพและความต่อเนื่องได้ จะทำให้ทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้น และเมื่อเทียบกับประเทศทั้งหลายในโลก จะเห็นว่าไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจ

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image