ประกวดรถโบราณปรับเกณฑ์ หวังยกระดับเทียบเท่าสากล

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้ปรับเกณฑ์ประกวดรถโบราณใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล แบ่งเป็น 7 ประเภท ตามกำหนดของ FIVA ได้แก่ ประเภทรถรุ่นบรรพบุรุษ ก่อน ค.ศ.1905 รุ่นผ่านศึก ค.ศ.1905-1918 รถโบราณ ค.ศ.1919-1930 รถรุ่นก่อนสงคราม ค.ศ.1931-1945 รถรุ่นหลังสงคราม ค.ศ.1946-1960 รถคลาสสิค ค.ศ.1961-1970 และรถคลาสสิกร่วมสมัย ค.ศ.1971-ปัจจุบัน-30 ปี

นายวรกุล บุณยัษฐิติ ประธานคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า เดิมทีจะตัดสินโดยพิจารณาเฉพาะสภาพของตัวรถส่งเข้าประกวดเท่านั้น แต่ปีนี้ได้เพิ่มการพิจารณาในด้านคุณค่าของตัวรถด้วย เช่น แบรนด์ ปีที่ผลิต ความหายาก และสภาพดั้งเดิม เป็นต้น เป็นเกณฑ์การตัดสินในระดับสากล เกณฑ์การให้คะแนนใหม่ แบ่งเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวด ก. เกี่ยวกับชาติกำเนิดของรถ เช่น คุณค่าของแบรนด์ และรุ่น ปีที่ผลิต คุณสมบัติ และลักษณะพิเศษ ฯลฯ เป็นข้อเท็จจริงของรถ มีค่าคะแนน 40 เปอร์เซ็นต์ หมวด ข. เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจในตัวรถที่ส่งเข้าประกวดของเจ้าของ มีค่าคะแนน 10 เปอร์เซ็นต์ และหมวด ค. เกี่ยวกับสภาพรถโดยตรง ทั้งตัวถัง สี เครื่องยนต์ ช่วงล่าง และห้องโดยสาร มีค่าคะแนน 50 เปอร์เซ็นต์

“ถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าคะแนนที่เกี่ยวกับตัวรถในหมวด ก. ด้านข้อเท็จจริง และหมวด ค. ด้านสภาพรถ มีสัดส่วนคะแนนรวมกันถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นการยืนยันว่ารถที่คณะกรรมการตัดสินให้ได้รับรางวัล เป็นรถที่มีความเหมาะสมทั้งคุณค่าและความงามอย่างแท้จริง” นายวรกุลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image