เข้าพรรษา “ไม่เสียของ” โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

แฟ้มภาพ

แม้หลายคนจะถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนกับความเป็นไปของประเทศ ไม่ว่าจะทิศทางทางการเมืองที่กลับไปสู่ยุคเชื่อในพากันไปเชื่อใน “คน” มากกว่า “ระบบ” คนกลุ่มหนึ่งถือตัวเองเป็นใหญ่กำหนดโครงสร้างอำนาจของประเทศกันตามอำเภอใจ ด้วยความคิดว่า “ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พร้อมที่มีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกับพวกตัว”

หรือระบบบริหารจัดการเศรษฐกิจที่สับสนอลหม่านในวิสัยทัศน์ ทำให้ที่พูดกับที่ทำขัดกันเองยุ่งเหยิง ส่งผลให้มองไม่เห็นอนาคตว่าโงหัวขึ้นมาได้อย่างไร

ซ้ำยังมีมาตรการที่ประกาศแล้วต้องชักเข้า-ชักออกอยู่บ่อยครั้ง เพราะประเมินผลไม่รอบด้าน คิดทำด้วยจินตนาการที่หลุดโลกความเป็นจริง

แต่ถึงวันนี้ ความใส่ใจที่พูดถึงความเป็นไปของบ้านเมืองดูอ่อนระโหยโรยแรง แทบทุกฝ่ายดูจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมอย่างมองไม่เห็นอนาคตกันไปแล้ว

Advertisement

เพราะช่วงสัปดาห์นี้เริ่มเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา อันหมายถึงเป็น 3 เดือนแห่งการชักชวนกันปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนชาวไทย

ชาวบ้านพากันบวชลูกบวชหลาน ห่มผ้าเหลืองเป็นพระภิกษุสงฆ์ ปฏิบัติธรรมตามประเพณี

มีจำนวนมากที่ถือโอกาสนี้ถือศีล อย่างน้อยที่สุดคือ “หยุดดื่มเหล้า” จนกว่าจะสิ้นพรรษา

Advertisement

ถือเอาเป็นโอกาสดีที่จะทบทวนตัวเอง ทั้งในเรื่องการดูแลร่างกาย จิตใจ และการเอื้อเฟื้อต่อผู้ร่วมสังคม ในช่วง “เข้าพรรษา” คนไทยเราเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะลูกหลาน ญาติมิตรไปบวชเรียนกันอยู่ อีกส่วนหนึ่งเพราะเห็นการปฏิบัติธรรมที่เข้มข้นในวัด ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะทำให้จิตใจน้อมไปมีอารมณ์ร่วมใฝ่ทำบุญทำทาน

ถ้าพูดถึงช่วงเวลาที่คนไทยเรามีจิตใจพร้อมที่จะใฝ่ในการคิดดี พูดดี ทำดี

“เข้าพรรษา” เป็นช่วงที่เอื้อมากที่สุด และดูจะเป็นช่วงเวลาที่คนไทยส่วนใหญ่มีจิตใจที่สงบที่สุด

ดังนั้นช่วงที่บรรเทาเบาบางจากความฟุ้งซ่านทั้งหลายนี้ จึงเหมาะที่ทุกคนควรจะกลับมาเพ่งมองจิตใจ ความคิดของตัวเองว่าถูกครอบคลุมไว้ด้วยทัศนคติเช่นใด

ควรจะบรรเทาเบาบางความรู้สึกนึกคิดที่ว่า “ตัวเองเหนือกว่า ดีกว่าคนอื่น จนต้องใช้อำนาจและความเป็นอภิสิทธิ์ชนกดข่มเพื่อนร่วมชาติไว้” ได้อย่างไร

ในสังคมที่สงบสุข การอยู่ร่วมสังคมอย่างเป็นธรรม เป็นปัจจัยสำคัญ “ความเท่าเทียม” เป็นพื้นฐานเบื้องต้นของความเป็นธรรม

ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดว่า “ตัวเองเหนือกว่าคนอื่น” ไม่มีทางที่จะเข้าความเป็นธรรมได้ เพราะจิตที่ไปติดกับ “ความเหนือกว่า” นั้นจะสร้างอคติมาครอบงำจิตทำให้ไม่สามารถสัมผัสความเป็นธรรมได้

ในช่วงเวลาที่บรรยากาศของประเทศน้อมไปศึกษาและปฏิบัติธรรม เช่นนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะชำระล้างอคติต่างๆ ออกจากจิตใจ อย่างน้อยให้เบาบางลง

ซึ่งผลที่ตามมาคือ การสร้างความพร้อมให้จิตใจของตัวเองได้มีโอกาสสัมผัสความเป็นธรรม

หากใช้ห้วงเวลาอันเหมาะสมเช่นนี้ ชำระล้างความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นให้จางลง ย่อมเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับอานิสงส์ให้เบาบางจากความหลงผิดต่างๆ

จิตที่เบาบางจากความหลงผิด จากอคติ ย่อมเอื้อให้เกิดปัญญา

ใครที่มีปัญญาย่อมสามารถเห็นการจัดการทางการเมือง จัดวางโครงสร้างอำนาจให้เหมาะสมกับการพัฒนาประชาชนให้เข้มแข็ง อันเป็นปัจจัยที่แท้จริงของการพัฒนาประเทศชาติ

เมื่อประชาชนเข้มแข็ง การพัฒนาทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นเอง โดยไม่ต้องเหนื่อยแรงพวกที่คิดว่า “ตัวเองเหนือกว่าคนอื่น”

เป็นโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จาก “เข้าพรรษา”

……………….

คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image