คลังแจกคนจนเดือนละ 2,750 บ.ขึ้นรถเมล์ รถไฟ ค่าน้ำ ค่าไฟ เริ่ม 1 ต.ค

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า กระทรวงการคลังเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในส่วนของมาตรการพื้นฐาน เช่น ค่ารถเมล์ รถไฟฟรี ค่าน้ำ ค่าไฟฟรี และวงเงินซื้อของในร้านธงฟ้า คาดว่าใช้วงเงินรวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ตรงนี้ยังไม่รวมการให้เงินช่วยเหลือสำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท ต้องรอการตรวจสอบข้อมูลผู้ลงทะเบียนให้ชัดเจนก่อนว่าที่แจ้งว่ามีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท จำนวน 4 ล้านคนนั้น ข้อมูลที่แท้จริงเป็นอย่างไร รวมถึงต้องนำข้อมูลการช่วยเหลือของหน่วยงานอื่นๆ มาร่วมพิจารณาเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน


“สวัสดิการผู้มีรายได้น้อยดำเนินการผ่านบัตรสวัสดิการเริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ซึ่งการใช้จ่าเช่นขึ้นรถเมล์รถไฟ ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือเงินนำไปซื้อของในร้านธงฟ้า จะมีวงเงินในบัตรให้เป็นรายเดือน โดยแยกประเภท เช่น รถเมล์ 1,000 บาท รถไฟ 600 บาท ถ้าใช้ไม่หมด หรือไม่ใช้ถูกตัดไปเป็นรายเดือน โดยจะมีการเช็คประวัติว่าเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ และโอนวงเงินในบัตรให้เป็นรายเดือน”นายสมชัย กล่าว


นายสมชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี จะเสนอครม.เป็นระยะที่สอง นอกจากวงเงินช่วยเหลือถึง 3 หมื่นบาทแล้ว คนที่ได้รับเงินต้องเข้าโครงการฝึกอาชีพ เพื่อพัฒนาตัวเอง และจะมีการประเมินผลทุกเดือน เพื่อดูว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ บางคนอาจเมื่อมีอาชีพที่ดีรายได้เกินกว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ตรงนี้ถือเป็นความสำเร็จของโครงการ เพราะกระทรวงการคลังไม่ต้องการให้คนรอความช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น แต่การช่วยเหลือต้องเป็นการพัฒนาเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการพื้นฐานให้กับผู้มีรายได้น้อยสรุปชัดเจน คือ วงเงินเพื่อขึ้นรถไฟ 1,000 บาทต่อเดือน รถบขส. 800 บาทต่อเดือน รถเมล์ขสมก. 600 บาทต่อเดือน ค่าไฟ 200 บาทต่อเดือน ค่าน้ำ 150 บาทต่อเดือน คิดเป็นเงินประมาณ 2,750 บาทต่อเดือน คาดว่าใช้งบประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาทต่อปี เมื่อรวมกับวงเงินนำไปใช้จ่ายในร้านธงฟ้าคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาทต่อปี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image