เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่บริเวณวาไรตี้ฮอลล์ เดอะมอลล์ นครราชสีมา เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับเดอะมอลล์นครราชสีมา ได้เปิดจุดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 9 อำเภอของ จ.นครราชสีมา โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา มาคอยรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนที่นำสิ่งของมาบริจาค ทั้งนี้ นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์นครราชสีมา ได้นำเงินจำนวน 100,000 บาท ซึ่งระดมทุนจากพนักงานและประชาชนทั่วไปมามอบให้กับนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาเพื่อเร่งไปให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้
นางณัฏฐินีภรณ์กล่าวว่า ในวันที่ 31 กรกฎาคม ทางเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาจะได้ลงพื้นที่นำสิ่งของที่ได้รับการบริจาคและถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนในอำเภอโนนแดง ต่อด้วย อ.ประทาย รวมกว่า 200 หลังคาเรือน ที่ประสบปัญหาอย่างหนักในขณะนี้ พร้อมทั้งประกอบอาหารให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน จากนั้นจะทยอยให้ความช่วยเหลือไปยัง อ.เทพารักษ์ อ.ด่านขุนทด และ อ.บัวใหญ่ ตามลำดับ
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นครราชสีมาได้รับผลกระทบไปแล้วทั้งหมด 9 อำเภอ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางจังหวัดนครราชสีมามีแนวทางการช่วยเหลือโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ อำเภอที่ระดับน้ำกำลังจะลดลง ประกอบไปด้วย อ.บัวลาย อ.บัวใหญ่ อ.แก้งสนามนาง อ.สีดา และ อ.บ้านเหลื่อม ส่วนอำเภอที่ระดับน้ำกำลังจะเพิ่มขึ้น ประกอบไปด้วย อ.โนนแดง, อ.ประทาย อ.เมืองยาง และ อ.เทพารักษ์ ซึ่งในส่วนของ อ.เทพารักษ์นี้ ภายหลังจากที่น้ำป่าไหลมาจากเขาลำพังเหย เข้าท่วมหมู่บ้านไทยสามัคคี ซึ่งขณะนี้ได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยจากหมู่บ้านไทยสามัคคี จำนวน 33 หลังคาเรือน ประชาชนจำนวน 100 คน โดยการอพยพไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านตะพานหินเป็นการชั่วคราว ซึ่งมีมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก ได้เข้าไปช่วยเหลือด้วยการประกอบอาหารเลี้ยงเป็นการเยียวยาแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังกลับเข้าไปไม่ได้ โดยน้ำจากอำเภอเทพารักษ์กำลังไหลเข้าสู่อำเภอด่านขุนทด ผ่านลำเชียงไกร ส่งผลให้ระดับน้ำในลำเชียงไกรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มน้ำลำเชียงไกรให้รีบขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไป
ด้าน พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากผลกระทบของพายุ “เซินกา” ที่เข้ายังพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในเกือบทั้ง 20 จังหวัด ปัจจุบันมีจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมจนประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนทั้งสิ้น 10 จังหวัด 38 อำเภอ ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 มีแผนการบรรเทาสาธารณภัย เป็นระบบทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเกิดภัยต่างๆ อย่างเข้มข้น โดยการปฏิบัติของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของมณฑลทหารบกทั้ง 10 ศูนย์ ในพื้นที่ จะมีการซักซ้อมพัฒนาความพร้อมกับทางจังหวัด โดยเฉพาะกับป้องกันภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่อย่างสม่ำเสมอ สำหรับในครั้งนี้ได้เฝ้าติดตามข่าวสารสภาพอากาศแจ้งเตือนหน่วยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความพร้อมสามารถรับมือได้ในทุกพื้นที่มณฑลทหารบกต่างๆ เว้นในพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 29 จ.สกลนคร อันเนื่องมาจากสภาพพื้นที่ซึ่งอยู่ใกล้กับเทือกเขา เป็นทางผ่านของน้ำปริมาณมากที่จะต้องไหลผ่านเขตตัวเมืองเข้าสู่แหล่งน้ำหนองหาร ซึ่งเป็นอ่างเก็บขนาดใหญ่ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กองทัพภาคที่ 2 ได้ประเมินสถานการณ์แล้วจำเป็นต้องเพิ่มการสนับสนุนให้กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนครโดยด่วน ได้สั่งการให้หน่วยที่ทำหน้าที่สนับสนุนเป็นส่วนรวมจัดกำลังพร้อมเครื่องต่างๆ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมกำลังพล 582 คน ยานพาหนะ อาทิ รถบรรทุก และเรือ เพื่อช่วยการเคลื่อนย้ายส่งสิ่งของ รถครัวสนาม เพื่อประกอบอาหารแจกจ่าย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วน คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมหนักในเขตเทศบาลเมืองสกลนครจะคลี่คลายในหลัง 2-3 วัน หากไม่มีฝนตกเข้ามาอีกเป็นปริมาณมาก
โดยแผนการช่วยเหลือศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของมณฑลทหารบกที่ 29 ได้ร่วมกับทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน สามารถดูแลชุมชนต่างๆ ในเขตเมืองได้เป็นอย่างดี การช่วยเหลือการสนับสนุนต่างๆ กองทัพบก โดยผู้บัญชาการทหารบกได้มอบนโยบายให้หน่วยทหารเข้าดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ด้วยการร่วมแรง ร่วมใจกันทุกหน่วยงาน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกคน
