เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมวลน้ำจาก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ได้ไหลเข้าสู่เขตพื้นที่ อ.หล่มสัก ตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 29 กรกฎาคม ปรากฏว่า ชุมชนซึ่งอยู่แถบบริเวณริมแม่น้ำ อาทิ ต.สักหลง ต.ห้วยไร่ ต.ตาลเดียว ต.วัดป่า รวมทั้งชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำจากแม่น้ำป่าสักเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม โดยหลายชุมชนต้องตกอยู่ในภาวะจมน้ำ เช่น ชุมชนหมู่ 11 ในเขต ต.ตาลเดี่ยวและชุมชนเลียบถนนชลประทาน ระดับน้ำท่วมสูงราว 1.5 เมตร กระทั่งรถยนต์ไม่สามารถเข้าออกได้ ในขณะที่ทางอาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสักได้นำเรือท้องแบน 3 ลำ และกำลังอาสาสมัครมาช่วยขนย้ายสิ่งของช่วยชาวบ้านและช่วยรับชาวบ้านที่จะสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนทหารจากกองพัน ม.28 จำนวน 4 ชุดปฎิบัติการรวม 48 นาย พร้อมเรือท้องแบนอีก 4 ลำ และทหารชุดเสนารักษ์ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักปรากฏว่าจากผนังกั้นน้ำที่เทศบาลก่อสร้างไว้ตลอดแนวแม่น้ำป่าสัก แม้จะช่วยสกัดไม่ให้น้ำเอ่อทะลักออกจากตลิ่งก็ตาม แต่กระแสน้ำก็ยังไหลย้อนจากชุมชนท่ากกโพธิ์เข้าท่วมชุมชนในเขตย่านเศรษฐกิจ ทำให้ชุมชนท่ากกโพธิ์ ชุมชนศรีมงคล ชุมชนวัดทุ่ง ชุมชนบ้านไร่ รวมทั้งถนนสายหลัก ได้แก่ ถ.วจี ถ.พิทักษ์ ถ.ผดุงราษฎร์ ถ.สุริยะวงศ์ ฯลฯ น้ำจากแม่น้ำป่าสักได้เอ่อเข้าท่วมระดับน้ำสูงราว 50 เซนติเมตร โดยเทศบาลได้ตั้งเครื่องสูบน้ำราว 8 จุดเพื่อเร่งสูบระบายน้ำ จนล่าสุดเวลา 10.00 น.ระดับเริ่มทรงตัว ส่วนชาวบ้านเนื่องจากมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า จึงทำให้พากันขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินขึ้นที่สูงเพื่อหลบหนีน้ำได้ทัน
จากเหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายแล้ว นายพูลทวี เพ็ญประทุม อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 9 บ้านใหม่ ต.ตาลเดี่ยว เกิดเหตุไฟฟ้าชอร์ตเสียชีวิต ขณะเกิดเหตุน้ำท่วมบ้านพักจึงไปเสียบปลั๊กเพื่อเดินเครื่องสูบน้ำ กระทั่งถูกกระแสไฟดูดจนเสียชีวิต หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก พร้อมแพทย์ไปชันสูตรพลิกศพแล้ว จึงได้มอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีบุญเรือง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันนี้
