นายวิษณุ ทับเที่ยง รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า วันที่ 29 สิงหาคมนี้ พระราชบัญญัติแร่(พ.ร.บ.) 2560 จะมีผลบังคับใช้ แต่พบว่ายังมีคำขออาชญาบัตร ประทานบัตรทำเหมืองแร่ และต่ออายุทั้งเก่าและใหม่ที่ค้างการอนุมัติรวม 40 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเภทหินก่อสร้าง หินปูน ยิปมซั่ม ฯลฯ กพร.จึงอยู่ระหว่างเสนอนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อนุมัติภายใต้อำนาจ ตามพ.ร.บ.แร่ฉบับเดิมได้ ขณะเดียวกันได้เสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาผ่อนปรนหากกรณีที่ไม่สามารถอนุญาตได้ทันก่อนกฎหมายใหม่ประกาศใช้ เพราะการลงทุนดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ
นายวิษณุกล่าวถึงเหมืองแร่ทองคำว่า จากคำสั่งของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)ที่ใช้อำนาจม.44 สั่งให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตร และใบอนุญาตทุกประเภท ยุติการการทำเหมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ทำให้การอนุมัติกิจการเหมืองแร่ทองคำหยุด และขณะนี้มีผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำยื่นขออาญชญาบัตร และประทานบัตรและการต่ออายุ 13 ราย อาทิ บ.อัคราไมนิ่ง อมันตรา ซับภูมิ โกลบอลเวนเจอร์ ทุ่งคำ คลองตะแบก ครอบคลุม 10 จังหวัดประมาณ 100 แปลงบนพื้นที่ประมาณกว่า 3 หมื่นไร่ การพิจารณาขั้นสุดท้ายจะต้องอยู่ที่การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เท่านั้น
