สถานีตำรวจ:ด่านหน้าในสงครามกับอาชญากรรม : วสิษฐ เดชกุญชร

ผมไม่ทราบว่าคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องสถานีตำรวจแล้วหรือยัง สถานีตำรวจเป็นเหมือนด่านหน้าในการทำสงครามกับอาชญากรรม เพราะฉะนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงต้องให้การสนับสนุนแก่สถานีตำรวจเช่นเดียวกับที่กองทัพให้การสนับสนุนแก่หมวดและหมู่ซึ่งเป็นด่านหน้าในการรบกับอริราชศัตรู

การสนับสนุนที่ให้แก่สถานีตำรวจนั้นต้องให้อย่างเต็มที่ทั้งในด้านบุคลากรและเครื่องมือเครื่องใช้ รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ ขณะนี้สถานีตำรวจหลายแห่งทั่วประเทศมีกำลังตำรวจน้อยยังไม่เพียงพอ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่ตรวจตระเวนป้องกันและปราบปรามอาชญากร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน

พนักงานสอบสวนนั้นแต่เดิมก็มีจำนวนไม่เพียงพอกับภารกิจอยู่แล้ว จนผู้ที่ถูกเร่งรัดถึงกับฆ่าตัวตายไปแล้วหลายต่อหลายราย มาบัดนี้เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งให้ยกเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวนและให้ตัดโอนตำแหน่งไปประจำกองบัญชาการหรือกองบังคับการ และเปลี่ยนชื่อเป็นนิติกร กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนก็ยิ่งจะน้อยลงไปอีก และยังจะเป็นโอกาสให้นายตำรวจที่มีวุฒิทางด้านการสอบสวนขอโอนหรือลาออกไปเป็นอัยการหรือผู้พิพากษาด้วย

ทางด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมนั้นทุกสถานีตำรวจยังมีกำลังไม่เพียงพอ หลายสถานีใช้วิธีตั้งอาสาสมัครขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระ แต่อาสาสมัครที่ตั้งขึ้นนี้ขาดคุณสมบัติและฐานะไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย จะเรียกว่าเป็นตำรวจเถื่อนก็ได้ ในต่างประเทศหลายประเทศเขาออกกฎหมายรับรองอาสาสมัคร เรียกชื่อว่าตำรวจกองหนุนบ้าง ตำรวจอาสาสมัครบ้าง ตามปกติมีอาชีพอื่น แต่สมัครใจที่จะมาช่วยราชการตำรวจเวลาว่าง เป็นอาสาสมัครที่แท้จริง ไม่มีเงินเดือนให้ ได้รับการอบรมวิชาการตำรวจ รวมทั้งการต่อสู้ป้องกันตัวและการใช้อาวุธ ให้แต่งเครื่องแบบและถืออาวุธได้เฉพาะในเวลาปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น และหากได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จะได้รับบำเหน็จความชอบและเกียรติยศเช่นเดียวกับตำรวจ

Advertisement

ในการปฏิรูปตำรวจควรคำนึงถึงเรื่องตำรวจกองหนุนหรือตำรวจอาสาสมัครด้วย เพราะจะเป็นการบรรเทาภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน

ทางด้านเครื่องมือเครื่องใช้และอาวุธยุทโธปกรณ์นั้นเป็นเรื่องแปลกกว่านิยาย ตำรวจไทยยังต้องออกเงินซื้อปืน คอมพิวเตอร์แบบพกพา และโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเอง บางรายต้องซื้อแม้แต่โต๊ะ-เก้าอี้ทำงาน การที่ต่างคนต่างซื้อปืนด้วยตนเองนั้นย่อมหมายความว่าตำรวจใช้กระสุนปืนชนิดและขนาดต่างกันด้วย เพราะฉะนั้นขณะต่อสู้กับผู้ร้ายถ้ากระสุนหมด ก็ไม่อาจอาศัยใช้กระสุนปืนของเพื่อนตำรวจที่กำลังร่วมปฏิบัติงานแทนได้

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ชี้ให้เห็นความอ่อนแอของสถานีตำรวจ ที่ทำให้สถานีตำรวจไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างเต็มภาคภูมิ และถ้าไม่ได้รับการปฏิรูป ด่านหน้าในสงครามกับอาชญากรรมก็อาจจะแตกในไม่ช้า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image