แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 ที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการออกกฎหมายลูกตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้วันที่ 16 กันยายน 2560 กรมสรรพสามิตเสนอให้ครม.เห็นชอบในอัตราภาษีสรรพสามิตของสินค้าและบริการ เกือบทุกประเภท ยกเว้นยาสูบ สุรา เบียร์ และไพ่ จะเสนอครม.ใกล้ๆ กับวันที่กฎหมายมีผล
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเสนอภาษีสรรพสามิตถือเป็นความลับจึงไม่สามารถแถลงก่อนที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ คาดว่าสัปดาห์นี้อัตราจัดเก็บภาษีที่ผ่านครม.จะประกาศในราชกิจจาฯ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีการเตรียมตัวในการนำส่งภาษี ยกเว้นในกลุ่มสินค้าอ่อนไหวต่อการกักตุน ต้องเสนอและประกาศในราชกิจจาพร้อมๆ กับวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ภาษีสรรพสามิตราภาษีมีทั้งหมด 21 ประเภท กลุ่มประกาศได้ก่อนเช่น น้ำมัน รถยนต์ เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า แบตเตอรี่ อาบอบนวด สนามม้า แก้ว ส่วนอีก 3-4 ประเภท คือ เบียร์ สุรา ยาสูบจะประกาศภายหลัง โดยตามกฎหมายใหม่เปลี่ยนวิธีการคิดภาษีจากราคาหน้าโรงงานหรือราคานำเข้า เป็นราคาขายปลีกแนะนำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องออกอัตราภาษีใหม่ โดยยึดหลักคือไม่เพิ่มภาระให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ ดังนั้นหากเคยเสียภาษีเครื่องดื่ม 1 บาทต่อขวด จะเสียภาษี 1 บาทเช่นเดิม
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสินค้าบางประเภทเคยอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มใช้วัตถุดิบในประเทศได้รับการยกเว้นภาษี เช่น ชา กาแฟ ชาเขียว ในกฎหมายใหม่กำหนดเก็บภาษี 10% ของมูลค่า และต้องคิดภาษีในขาปริมาณคือค่าความหวานด้วย เมื่อคิดเป็นอัตราภาษีออกมาแล้วหากสินค้ามีราคาขายขวดละ 20 บาท เสียภาษีขวดละ 1 บาท
แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า ในการเก็บภาษีเก็บเครื่องดื่มจะคิดจากขามูลค่าคือร้อยละของราคาขายปลีกแนะนำไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) กับขาปริมาณ ตามค่าความหวานต่อลิตร กำหนดไว้คือ น้ำตาล 0-6 %ต่อ 100 มิลลิลิตร(มล.)อัตรา 0% มากกว่า 6-8 % ต่อ 100 มล. เสีย 30 สตางค์ มากกว่า 10-14% ต่อ 100 มล. เสีย 50 สตางค์ มากกว่า14-18% ต่อ 100มล. เสีย 1 บาท มากกว่า 18% ต่อมล.เสีย 1 บาททั้งนี้ ให้เทียบต่อเครื่องดื่ม 1ลิตร เช่น กรณี มีน้ำตาล 14% ถ้า 1 ลิตร จะจ่าย 50 สตางค์แต่ถ้าครึ่งลิตร จ่าย 25 สตางค์
“ในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เดิมเคยเสียภาษี 20% อัตราใหม่ประกาศใช้วันที่ 16 กันยายน อัตราภาษีลดลงเหลือ 14% แต่จะเพิ่มการคิดภาษีจากค่าความหวานเข้าไปด้วย ทำให้การคิดภาษีเป็น 2 ขา คือทั้งด้านมูลค่าและปริมาณน้ำตาล ในช่วงแรก 2 ปีการคิดค่าความหวานจะไม่สูงมากเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว ภาระภาษีในส่วนนี้เท่าเดิม โดยจะมีการปรับภาษีในส่วนความหวานเป็นขั้นบันไดเป็นเวลา6ปี 3ครั้ง”แหล่งข่างกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า สำหรับภาษีรถยนต์นั้น อัตราภาษีใหม่ลดลง เช่น รถยนต์เคยเสียภาษี 30% ลดเหลือ 23% คิดจากการเปรียบเทียบราคาหน้าโรงงานกับราคาขายปลีกแนะนมีความแตกต่าง 24% ดังนั้นภาษีใหม่ลดลง 24% ของอัตราภาษี 30%
