ศาสนากับการเมือง : กรณีกาตาร์กับซาอุดีอาระเบีย โดย:โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

พิธีฮัจย์ปีนี้เริ่มวันพุธที่ 30 สิงหาคมถึงวันจันทร์ที่ 4 กันยายน
ผู้แสวงบุญเกือบ 2 ล้านคนประกอบพิธีกรรม 12 ขั้นตอน

ชาวมุสลิม (ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม) จะต้องปฏิบัติศาสนกิจให้ถึงพร้อมทั้งทางกาย วาจา และใจ หลักปฏิบัติสำคัญในชีวิตประจำวันของศาสนาอิสลามมี 5 ประการ ดังนี้คือ

1.การกล่าวคำปฏิญาณในความศรัทธาต่ออัลลอฮ์ (พระผู้เป็นเจ้า) โดยกล่าวว่า ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ มุฮัมมัด รอซูลุลลอฮ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจาก อัลลอฮ์ มุฮัมหมัดคือศาสนทูตของพระผู้เป็นเจ้า)

2.สวดมนต์สักการะขอบคุณต่ออัลลอฮ์ วันละ 5 ครั้ง คือยามรุ่งอรุณ ยามบ่าย ยามตะวันคล้อย ยามดวงอาทิตย์ลับฟ้าไป และยามค่ำคืน โดยหันหน้าไปทางกรุงเมกกะ

3.การถือศีลอดปีละหนึ่งเดือน การอดอาหารเป็นครั้งคราวนี้ดีวิเศษจริงๆ สอนให้คนตระหนักและเข้าใจในความทุกข์ทรมานของความหิวกระหาย ซึ่งเป็นการนำพาไปสู่ความกรุณาที่จะช่วยให้เพื่อนมนุษย์หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างมหันต์ของความหิวนี้

Advertisement

4.การทำทานซึ่งเป็นการเสียสละให้กันเพื่อช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ซึ่งเป็นการให้ทานที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่การให้ทานด้วยหวังจะถูกหวยอย่างคนไทยทั่วไปทำกัน

5.การทำฮัจย์ คือการที่ชาวมุสลิมทั้งชายหญิงเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่กรุงเมกกะซึ่งถือเป็นหน้าที่อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีกำลังกายและกำลังทรัพย์ที่สามารถจะเดินทางได้เท่านั้น ไม่ควรที่จะเบียดเบียนตนเองและครอบครัวจนเกินไป

การทำฮัจย์ นอกจากจะเป็นการแสดงความภักดีและยืนยันในความศรัทธาต่ออัลลอฮ์ แล้วยังสอนมนุษย์ทุกคนให้รู้สำนึกว่าในสายตาของอัลลอฮ์แล้ว มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันเพราะในการทำฮัจย์นั้น ผู้ทำฮัจย์ทุกคนไม่ว่าจะมาจากชนชั้น เผ่าพันธุ์ ภาษาหรือทุกคนเท่าเทียมกันเสมอภาคกัน

โดยในการทำฮัจย์ ผู้ทำฮัจย์ทุกคนไม่ว่าจะมาจากชนชั้น เผ่าพันธุ์ ภาษาหรือจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ทุกคนจะต้องห่อหุ้มร่างกายด้วยผ้าสีขาวเพียงสองผืนเหมือนกันหมดทุกคน จะต้องปฏิบัติพิธีการต่างๆ เหมือนกันหมดและทุกคนต่างก็ประกาศความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์เหมือนกันหมด ซึ่งการทำฮัจย์นี้เองแสดงถึงความเสมอภาคในศาสนาอิสลามและเป็นเครื่องหมายแห่งภราดรภาพอย่างแท้จริงแห่งชาวมุสลิม

การทำฮัจย์คือพลังที่ทรงมหิทธานุภาพอันทำให้คนทั่วโลกหันมานับถือศาสนาอิสลามอย่างล้นหลาม จนศาสนาอิสลามกำลังจะเป็นศาสนาที่มีผู้ศรัทธานับถือมากที่สุดในโลกเร็ววันนี้ ด้วยความเสมอภาคและภราดรภาพของมนุษย์ทุกคนอยู่ภายใต้พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียวกัน เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์ย่อมไม่นิยมความเหลื่อมล้ำเอารัดเอาเปรียบระหว่างมนุษย์ด้วยกันอยู่แล้ว

แต่น่าเสียดายที่การทำฮัจย์ปีนี้ซึ่งจะเริ่มพิธีกรรมในวันพุธที่ 30 สิงหาคมและสิ้นสุดลงในวันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2560 ที่จะถึงนี้ แต่เนื่องจากซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่ดูแลกรุงเมกกะสถานที่ทำฮัจย์รวมทั้งกลุ่มประเทศอาหรับอีก 3 ประเทศ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตและยุติความร่วมมือทางทหารกับประเทศกาตาร์ซึ่งเป็นประเทศอาหรับอิสลามที่มีพรมแดนติดกับซาอุดีอาระเบียเพียงประเทศเดียวเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ โดยอ้างว่ากาตาร์ให้การสนับสนุน “ลัทธิก่อการร้าย” และปิดพรมแดนตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับกาตาร์ ซึ่งหมายความว่าชาวมุสลิมกาตาร์จะไม่สามารถเดินทางไปทำฮัจย์ได้เมื่อทางการซาอุฯ ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ชาวกาตาร์ที่ต้องการจะทำฮัจย์ในปีนี้สามารถเดินทางเข้าซาอุดีอาระเบียได้ โดยมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ผู้ที่โดยสารเครื่องบินจะต้องใช้เที่ยวบินที่มีข้อตกลงกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเท่านั้น ซึ่งทางการกาตาร์ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ชาวกาตาร์เดินทางไปกรุงเมกกะเนื่องจากไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยของชาวกาตาร์

แต่แล้วในวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมานี้ กษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย ได้ทรงสั่งให้เปิดพรมแดนด้านที่ติดกับกาตาร์ เพื่อให้ชาวกาตาร์ที่จะมาทำฮัจย์ทางบกในปีนี้ได้เดินทางเข้าซาอุดีอาระเบียทางจุดผ่านแดนซัลวาเพื่อทำฮัจย์ และอนุญาตให้พลเมืองกาตาร์ทุกคนที่ต้องการร่วมพิธีฮัจย์สามารถเดินทางเข้ามาได้ โดยไม่ต้องมีหนังสืออนุญาตอิเล็กทรอนิกส์จากทางการซาอุดีอาระเบียอีกด้วย

นอกจากนี้ กษัตริย์ซัลมานยังทรงสั่งให้เครื่องบินของสายการบินซาอุดิแอร์ไลน์สเดินทางไปยังกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ จำนวน 17 เที่ยวบิน เพื่อรับผู้แสวงบุญชาวกาตาร์ โดยกษัตริย์ซัลมานจะทรงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยพระองค์เอง และทั้งหมดนี้เป็นเรื่องส่วนพระองค์ทั้งสิ้น

ปรากฏว่าชาวกาตาร์ประมาณ 400 คน ได้เดินทางเข้าซาอุดีอาระเบียเพื่อไปทำฮัจย์ทางบกเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับการเดินทางทางอากาศโดยเครื่องบินซาอุดีอาระเบียนั้นทางกาตาร์ปฏิเสธที่จะให้เครื่องบินเข้ามาเนื่องจากเกรงในความปลอดภัยของชาวกาตาร์และด้วยศักดิ์ศรีของกาตาร์ที่ต้องการจะจ่ายเงินไปทำฮัจย์เอง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียยกเลิกการปิดพรมแดนเป็นการถาวร

ครับ! ยังไงๆ ก็เป็นเรื่องการเมืองนะครับ น่าเสียดาย     

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image