ความคืบหน้าการจับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นายสุรชัย แช่ย่าง ประธานคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด ประกอบธุรกิจสายการบิน มี พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. นายโอภาส ศรียา นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ นายอุทิศ หรือจ่ายักษ์ ก่อแก้ว นายฐิติกร หรือจ่าต้อย ชื่นอุรา ทหารกรมสารวัตรทหารเรือประจำกองทัพไทย ยศ จ.อ. 4 ราย โดย พล.ต.จรูญ และทหารกรมสารวัตรทหารเรือประจำกองทัพไทย ยศ จ.อ. 4 คน ได้ประกันชั้นพนักงานสอบสวน ขณะที่ พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ และนายโก๊ะ เต็ก ชวน ได้ประกันชั้นศาล ส่วนนายโอภาส นายอุทิศ และนายฐิติกร ไม่มีคนยื่นประกัน จึงถูกคุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ออกหมายจับนายพนม หรือหลิน นิรมิตร์ อายุ 46 ปี ชายหมวกสีเขียว ที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด และนายนวพล ท้าวคำหลง อายุ 50 ปี คนขับรถร่วมก่อเหตุ ฐานกรรโชกทรัพย์ บุกรุก และร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 12 คน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่สน.โคกคราม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.ปส. และพ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม ร่วมกันสอบปากคำ นายกิตติพันธ์ ตันติชาญชัยกุล อายุ 50 ปี และนายกิตติธัช จันทรมณี อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่14กรกฎาคม กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นคนมีสีบุกเข้าไปควบคุมตัวเจ้าของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง เป็นเจ้าของสายการบิน ย่านถนนนวลจันทร์ โดยมีการเรียกเงินจำนวน20ล้านบาท ต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของบริษัทดังกล่าวจึงสั่งการให้สืบสวนจนสามารถออกหมายจับและจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 10 ราย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนหาผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งผู้ลงมือ ผู้ให้ข้อมูลและผู้ที่ร่วมกันทั้งทางตรงและทางอ้อม จนสืบสวนและออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ได้อีก 4 ราย มี นายนวพล ท้าวคำหลง และ นายพนม นิรมิต หรือหลิว ทั้ง 2 คนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนนายกิตติพันธ์ และนายกิตติธัช ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ขณะเตรียมหลบหนี ด้านการรวบรวมสำนวน พ.ต.อ.ศรายุทธ ดำเนินการไปได้มาก คาดว่าใช้เวลาอีกไม่เท่าไหร่จึงสรุปสำนวนได้ แต่การสอบสวนจะปิดสำนวนแค่นี้ เพราะหลักฐานข้อมูลมีความเกี่ยวพันได้ครบหมดแล้ว นอกจากนี้ พบผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก 1 ราย เป็นเจ้าของร้านสปา เหตุเกิดช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ที่พัทยา จ.ชลบุรี แต่ผู้เสียหายยังไม่แจ้งความร้องทุกข์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้าน
