น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ)ทั่วไปเดือนสิงหาคม 2560 เท่ากับ 100.64 สูงขึ้น 0.32% เทียบสิงหาคม 2559 และสูงขึ้น 0.11% จากเดือนกรกฎาคม 2560 ซึ่งเป็นบวกต่อเนื่องเดือนที่ 2 โดยเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น เป็นผลจากหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 1.03% เช่น ค่าเช่าบ้าน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จากพายุเฮอริเคนฮาวีย์ถล่มชายฝั่งเท็กซัสและหลุยเซียน่าของสหรัฐ กระทบต่อกำลังการผลิตลดลง 10% และหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.92% เช่น ข้าวแป้ง เนื้อสัตว์ที่เป็นเป็ดไก่และสัตว์น้ำ ผักผลไม้ เพราะมีปริมาณมากตามฤดูกาลราคาจึงลดลงเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หักกลุ่มอาหารสดและพลังงาน เท่ากับ 101.35 สูงขึ้น 0.46% เทียบสิงหาคม 2559 และสูงขึ้น 0.05% จากกรกฎาคม 2560 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 8 เดือนแรกปีนี้ สูงขึ้น 0.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 8 เดือนแรกปีนี้ สูงขึ้น 0.54% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากราคาสินค้า 422 รายการที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม พบว่า สินค้า 110 รายการราคาปรับตัวสูงขึ้น เช่น กุ้งขาว ไก่สด ไข่ไก่ ราคาน้ำมัน อาหารปรุงสำเร็จบางตัวในบางจังหวัด กระดาษชำระ สินค้า 213 รายการราคาไม่เปลี่ยนแปลง และสินค้า 99 รายการราคาลดลง 99 รายการ เช่น ข้าวเจ้า ผักผลไม้สด เนื้อสุกร น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน จากสำรวจพบว่าราคาอาหารปรุงสำเร็จบางรายการปรับขึ้นในบางพื้นที่ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก เริ่มเห็นผลกระทบจากการขาดแรงงาน ซึ่งเป็นต้นทุนตัวหนึ่ง แต่ยังไม่น่ากังวล จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการออกมาดูแลเรื่องการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้มีความชัดเจน ไม่ให้มีผลกระทบ เพราะแรงงานเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลายภาคส่วน เช่น ร้านอาหาร รวมถึงก่อสร้าง และแรงงาน ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญ
ทั้งนี้ ประเมินว่าเงินเฟ้อ 4 เดือนที่เหลือของปี 2560 จะปรับตัวสูงขึ้น แต่ไม่ทำให้ข้าวของแพงจนเกินไป เพราะอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ จากราคาน้ำมันที่ไม่ปรับลดลง กฎหมายภาษีสรรพสามิตตัวใหม่ และปกติปลายปีสูงขึ้นตามการใช้จ่ายที่มาก เปิดภาคเรียน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ หากทำได้ก็จะทำให้ราคาในภาคอุตสากรรมก่อสร้างสูงขึ้น
“สนค.ยังคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปีนี้ในกรอบ 0.7-1.7% ภายใต้สมมุติฐานจีดีพีขยายตัว 3-4% ราคาน้ำมันดิบ(ดูไบ) 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 34-36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามเดือนตุลาคมจะทบทวนอีกครั้ง ก็ลุ้นเงินเฟ้อจริงอยู่กรอบตัวเลขล่างของคาดการณ์ ซึ่งค่าบาทแข็ง พบว่า มีผลต่อเงินเฟ้อไม่ให้สูงขึ้น 0.04% แต่ก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนในขณะนี้และเป็นระดับที่ยังรับได้ ”
