เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายอภิชาต ชาญธัญกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ปัญหาถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม.ชำรุดบริเวณสะพานคลองหว้าโทน ถึงแยกทางเข้าจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เส้นทางสายหลักขึ้น-ล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ โดยกรมทางหลวงได้ลงนามตรวจรับการจ้างหลังจากมีการรื้อผิวการจราจรเดิมออกทั้งหมด และมีการก่อสร้างถนนเพชรเกษมช่วงดังกล่าวจากผู้รับเหมาเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน ล่าสุดได้แจ้งให้บริษัทผู้รับเหมาดำเนินการใช้วัสดุแอสฟัลต์ฝังกลบหลุมบนผิวถนน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม จากนั้นจะใช้เครื่องจักรกลหนักเร่งดำเนินการซ่อมให้กลับสู่สภาพปกติภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจากบริษัทรับเหมายังมีสัญญารับประกันงานต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี สำหรับสาเหตุที่ทำให้ถนนชำรุดเร็วก่อนกำหนด คาดว่ามาจากปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินจากน้ำหนักบรรทุกปกติไม่เกิน 28 ตัน
“นอกจากนั้นอาจมีปัญหาจากส่วนผสมในการใช้วัสดุก่อสร้าง โดยฝ่ายวิศวกรรมกรมทางหลวงจะตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อประเมินที่มาของความเสียหาย เพื่อป้องกันปัญหาถนนทรุดในระยะยาว ทั้งนี้ การก่อสร้างถนนเพชรเกษมในพื้นที่ตั้งแต่ อ.ปราณบุรี-บางสะพานน้อย ระยะทางกว่า 200 กม. จากการใช้งบประมาณปรับปรุงถนนเพชรเกษมรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ออกแบบเป็นพิเศษให้การก่อสร้างถนนมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าปกติ โดยเฉพาะชั้นหินคลุกมีการผสมซีเมนต์ จากนั้นขั้นตอนต่อมามีการก่อสร้างถนนชั้นรองมีความหนา 8-10 ซม. และชั้นผิวแอสฟัลต์มีความหนา 5-10 ซม.” นายอภิชาติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาถนนชำรุดที่มีสาเหตุมาจากรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เนื่องจากรถบรรทุกขนาดใหญ่จาก 14 จังหวัดภาคใต้ บางคันไม่ได้เข้าชั่งน้ำหนัก ที่ด่านชั่งบริเวณถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม. ก่อนถึงเนินทุ่งกระต่ายขัง ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
