“พาณิชย์”คลอด”ยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการไทย”ฉบับแรกของประเทศเล็งดันขึ้นฮับอาเซียน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้กำหนดยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการไทย ฉบับแรกของประเทศ เป็นแผนงานระยะ 3-5 ปี มีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจบริการอาเซียน เพิ่มรายได้ของภาคบริการ และส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจบริการระดับท้องถิ่นให้มากขึ้น นอกจากนี้จะกำหนดธุรกิจบริการเป้าหมายเป็น รายจังหวัด กลุ่มจังหวัด รายภาค โดยเน้นการพัฒนาผู้ให้บริการและยกระดับมาตรฐานบริการให้เป็นสากล การทำงานผลักดันจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา

นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการของไทยประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1.การสร้างนักรบธุรกิจบริการสู่ภูมิภาค แบ่งเป็นคลัสเตอร์ธุรกิจตามทรัพยากรท้องถิ่นและห่วงโซ่มูลค่าของธุรกิจบริการ มุ่งเน้นการส่งเสริมธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม ค้าส่งค้าปลีก 2.การต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยี มุ่งเน้นการส่งเสริมธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (นิว เอส-เคิร์ฟ) การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา และการสร้างมาตรฐานการบริการที่มีความน่าเชื่อถือ 3.การเชื่อมต่อธุรกิจบริการไทยสู่ตลาดโลกโดยมุ่งเน้นธุรกิจบริการผู้สูงอายุ และการส่งเสริมเชื่อมสตาร์ทอัพ กับนิว เอส-เคิร์ฟ เและ 4.การยกเครื่องด้านกฎหมายและข้อมูลธุรกิจบริการ โดยจะทำสำมะโนธุรกิจบริการ ทำการสำรวจการประกอบธุรกิจบริการของประเทศไทยในด้านของจำนวน รายได้ ประเภทธุรกิจ และรายละเอียดอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างฐานข้อมูลที่มีคุณภาพสำหรับวิเคราะห์ต่อยอดธุรกิจบริการ

นางอภิรดี กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้กำหนดกลุ่มธุรกิจบริการเป้าหมายไว้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1. ธุรกิจบริการลำดับแรกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (เฟิร์ส เอส-เคิร์ฟ) ซึ่งจะเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้แก่ กลุ่มบริการทางการแพทย์และสุขภาพ กลุ่มบริการโรงพยาบาลและที่พักเพื่อสุขภาพ ธุรกิจบริการด้วยความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มบริการสนับสนุนการค้า กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มบริการการศึกษา และ 2. ธุรกิจบริการนิวส์ เอส-เคิร์ฟ ได้แก่ ธุรกิจบริการด้านสิ่งแวดล้อม ธุกิจบริการด้านดิจิทัล ธุรกิจบริการต่อยอดนิว เอส-เคิร์ฟในภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการส่งเสริมการให้บริการอย่างครบวงจร อาทิ การซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ อากาศยาน ยานยนต์ในน้ำและยานยนต์ไร้คนขับ และการผลิตดิจิทัลคอนเท็นต์

“เบื้องต้นได้แบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจบริการตามความเหมาะสมกับทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อให้สามารถพัฒนาตามศักยภาพที่มีอยู่ได้ ได้แก่ 1.กลุ่มบริการทางการแพทย์และสุขภาพ ในภาคเหนือ และภาคกลาง 2.กลุ่มบริการโรงพยาบาลและที่พักเพื่อสุขภาพ ภาคเหนือ และภาคกลาง 3.ธุรกิจบริการด้วยความคิดสร้างสรรค์ ภาคตะวันออกและภาคใต้ 4.กลุ่มบริการสนับสนุนการค้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) และภาคใต้ 5.กลุ่มก่อสร้าง ภาคกลางตอนบนและภาคอีสาน และ 6.กลุ่มบริการการศึกษา ภาคใต้”นางอภิรดีกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image