บอร์ดดีอีเตรียมถกแผนนำสายสื่อสารสมาร์ทซิตี้ลงดิน-อินเตอร์เน็ตฮับอาเซียน-เพิ่มหลักเบอร์บ้าน

น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัด และโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ครั้งที่ 2/2560 ในวันที่ 6 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาลมีวาระแจ้งเพื่อทราบจำนวนมาก ขณะที่วาระเพื่อพิจารณามีหลักๆมีจำนวน 9 วาระ โดยวาระที่น่าจับตา ได้แก่ โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท ซิตี้ ระยะ 5 ปี (2561-2565) โดยจะมีการนำเสนอศักยภาพของการดำเนินโครงการท่อร้อยสายของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยมีแนวคิดว่าหากพื้นที่ไหนต้องทำเป็นเมืองอัจฉริยะ ต้องนำสายสื่อสารทั้งหมดลงใต้ดินด้วย ซึ่งทีโอทีมีท่อร้อยสายที่พร้อมใช้งานได้ทันที 2,000 กิโลเมตร

น.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีวาระเรื่องการเพิ่มตัวเลขของเลขหมายโทรศัพท์ประจำที่ หรือ เบอร์บ้าน จาก 9 หลัก เป็น 10 หลัก ซึ่งจากเดิมขึ้นต้นด้วย 02, 03, 05 และ 07 แต่การเพิ่มหลักเข้าไปใหม่จะมีการเพิ่มเลข 1 ต่อท้ายเลข 0 และจึงตามด้วยหมายเลขเดิม สำหรับโทรศัพท์บ้านทุกเบอร์ เพื่อให้มี 10 หลัก เช่น 01-2xxx-xxxx, 01-3xxx-xxxx, 01-5xxx-xxxx และ 01-7xxx-xxxx จากนั้นจะนำเบอร์นำหน้าของโทรศัพท์ประจำที่เดิมมาใช้เป็นเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ทำให้โทรศัพท์มือถือจะมีเลขหมายขึ้นต้นด้วย 02, 03, 05 และ 07 ทำให้โทรศัพท์มือถือมีเลขหมายเพิ่มขึ้นเป็น 760 ล้านเลขหมาย จากเดิมที่เหลือให้จัดสรรเพียง 52.5 ล้านเลขหมาย คาดว่าจะหมดลงในปี 2564 ขณะที่โทรศัพท์ประจำที่จะมีเพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านเลขหมาย เป็น 100 ล้านเลขหมาย

น.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)ของภูมิภาคอาเซียน หรือโครงการ เกตเวย์แห่งชาติ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงทำโดยบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กรอบงบประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นให้งวดแรก 2,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณปี 2560 ซึ่งต้องเร่งใช้ให้หมดภายในเดือน กันยายน โดยการใช้งบประมาณดังกล่าว กสท ได้เสนอแผนให้บอร์ดดีอีพิจารณา ใน 2 แผนธุรกิจคือ 1.ขยายปริมาณความจุโครงข่าย เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับกลุ่มประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) 2.สร้างโครงข่ายเชื่อมต่ออ.ศรีราชา จ.ชลบุรีเพื่อไปยังจุดเชื่อมต่อที่จ.สงขลา ส่วนงบประมาณที่เหลืออีก 3,000 ล้านบาทนั้น จะใช้สร้างเส้นทางเกตเวย์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยังต่างประเทศใหม่เป็นเส้นทางใหม่ไทย-ฮ่องกง

น.อ. สมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในที่ประชุมยังมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะด้านและคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(กองทุนดีอี) ตาม พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2560 ด้วย ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์การใช้เงินกองทุนดีอี ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มอบให้ไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 1,182.86 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างสรุปหลักเกณฑ์โดยจะนำเข้าที่ประชุมบอร์ดดีอีในครั้งต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image