เล็งถอนเรือบรรทุกน้ำมัน5ประเภท ไม่ต้องติดวีเอ็มเอส

นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดประเภทของเรือสนับสนุนการประมง พ.ศ.2560 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2560 เพื่อกำหนดให้เรือที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทย เป็นเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต เรือกลเดินทะเลชายแดน และเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศ ประเภทการใช้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลซียส และประเภทการใช้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอส แต่ไม่เกิน 1,000 ตันกรอส เป็นเรือสนับสนุนการประมง ที่ต้องติดตั้งระบบติดตามเรือ หรือวีเอ็มเอส และแจ้งการเข้าออกท่าเทียบเรือประมง (PIPO) นั้น

นางอุมาพรกล่าวว่า ข้อเท็จจริงปรากฎว่ามีเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันบางประเภท หรือการบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันในบางกิจกรรม ไม่ได้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทที่ใช้กับเรือประมง หรือมีการควบคุมการขนถ่ายน้ำมันที่สามารถตรวจสอบและควบคุมการขนถ่ายน้ำมันโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีความเสี่ยงในการให้บริการน้ำมันแก่เรือประมง ดังนั้น กรมประมงจึงเสนอให้กระทรวงเกษตรปรับปรุงประกาศดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 10 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 22/2560 เรื่อง การแก้ไขปัญหาทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมหรือไอยูยูเพิ่มเติมครั้งที่ 4 ลงวันที่ 4 เมษายน 2560 ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดประเภทของเรือสนับสนุนการทำประมง ไม่ให้ใช้บังคับแก่เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน 5 ประเภท

ประกอบด้วย 1.เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันเตา 2.เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ของเสียจากเรือ 3.เรือบรรทุกน้ำมันปาล์ม 4.เรือบรรทุกยางมะตอย และ 5.เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีการทำสัญญาโดยตรงกับบริษัทน้ำมันในประเทศไทย ให้เป็นผู้จัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันระหว่างคลังน้ำมันในประเทศไทยกับต่างประเทศ หรือขนส่งเรือผลิตภัณฑ์น้ำมันระหว่างคลังน้ำมันในประเทศไทยกับต่างประเทศ ทั้งนี้เรือทุกเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันเตา ของเสียจากเรือ น้ำมันปาล์ม และยางมะตอย จะต้องมีการระบุใบอนุญาตให้ใช้เรือโดยชัดเจนว่าเป็นเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันตามประเภทดังกล่าว ส่วนเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีการทำสัญญาโดยตรงกับบริษัทน้ำมันในประเทศไทย ให้ได้รับการยกเว้นเฉพาะในช่วงเวลาที่มีสัญญาระหว่างโรงกลั่นน้ำมันกับเรือเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันดังกล่าวมีผลใช้บังคับ และผู้ประกอบการดังกล่าวจัดส่งสัญญาให้กรมประมงทราบแล้วเท่านั้น ทั้งหมดนี้ให้มีผลใช้บังคับภายใน 30 วัน หลังจากลงนามในประกาศแล้ว

“เรือทั้ง 5 ประเภทดังกล่าว พิสูจน์ชัดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือประมง แต่ที่ก่อนหน้านี้ที่ออกประกาศคลุมทุกประเภทเรือ เพราะต้องการให้เรือทุกประเภทเข้าสู่ระบบก่อน และยอมรับว่าประกาศดังกล่าวทำให้เรือที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนต้องติดตั้งระบบ วีเอ็มเอส การเข้าออกจากท่าต้องปฏิบัติตามระเบียบเรือประมง คือการแจ้งเข้าออกกับ PIPO ดังนั้น เมื่อระบบทุกอย่างของไอยูยูเริ่มมีความชัดเจนทำให้เห็นว่าเรือเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงค่อยๆ แยกออก เริ่มจากเรือน้ำมัน 5 ประเภทนี้ก่อน และเรือน้ำจืดอื่นๆ จะพิจารณาต่อไป” นางอุมาพรกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image