พณ.เข้มตรวจราคาจานด่วน หลังก๊าซหุงต้มขึ้นราคา-เพิ่มร้านหนูณิชย์ทางเลือก

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากราคาจำหน่ายปลีกก๊าซ แอลพีจีเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัม (กก.) ละ 20.49 บาท เป็น กก.ละ 21.15 บาท ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2560 ซึ่งกรมได้วิเคราะห์ผลกระทบจากการปรับราคาจำหน่ายปลีกก๊าซแอลพีจีที่เพิ่มขึ้น กก.ละ 67 สตางค์ หรือถัง (ขนาด 15 กก.) เพิ่ม 10 บาท แต่ส่งผลให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มขึ้นจาน/ชามละ 3 สตางค์เท่านั้น จึงไม่เป็นเหตุผลจะเพิ่มราคาอาหารปรุงสำเร็จ

นอกจากรัฐบาลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและผู้ค้าหาบเร่แผงลอย โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.43 ล้านคน ได้เงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และร้านค้าหาบเร่แผงลอยที่ขึ้นทะเบียนไว้ กระทรวงพลังงานซื้อก๊าซแอลพีจีในราคาเดิม กก.ละ 18.13 บาท โดยได้รับสิทธิ 150 กิโลกรัมต่อเดือน แล้วกรมฯได้จัดหาร้านอาหารราคาประหยัดเป็นทางเลือกเพื่อลดค่าครองชีพ ภายใต้โครงการ “ร้านอาหารหนูณิชย์” ซึ่งจำหน่ายอาหารราคาไม่เกิน 35 บาท

โดยปัจจุบันมีจำนวนถึง 12,665 ร้านทั่วประเทศ และมี 495 ร้าน ได้รับคัดสรรเป็นร้านหนูณิชย์ติดดาว ที่รับรองคุณภาพและความอร่อยอีกด้วย ประชาชนสามารถค้นหาร้านอาหารหนูณิชย์ได้ เพียงดาวน์โหลด Application “หนูณิชย์”

และเพื่อป้องปราบไม่ให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายก๊าซหุงต้มในราคาสูงเกินสมควร กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบร้านจำหน่ายก๊าซเป็นประจำทุกวัน วันละ 10 สายตรวจ ใน 50 เขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งออกตรวจสอบเช่นกัน
กรณีที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาหรือจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าราคาที่แสดงไว้ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำหน่ายราคาสูงเกิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image