วันที่ 30 กันยายน ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.คมกฤต รัตนฉายา ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กกล.ทพ.จชต.) พ.อ.หาญพล เพชรม่วง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ฉก.ทพ.44 และผู้บังคับหน่วยกำลังทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่ติดตามคลี่คลายคดีได้ร่วมประชุมวางแผนและกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนติดตามหากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.ทพ.44 ชุด รปภ.ครูโรงเรียนตะบิ้ง อ.สายบุรี เสียชีวิต 4 นาย เจ็บ 6 ราย เหตุเกิดเมื่อ 22 กันยายนที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม ชุดสืบสวนสอบสวน รวมกับชุดนิติวิทยาศาสตร์และชุดดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานพยานต่างๆ ในจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งบ้านที่ใช้เป็นจุดนัดประชุมวางแผนก่อเหตุตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านกะดุนง ต.กะดุนง อ.สายบุรี โดยเป็นการให้ข้อมูลจากการซักถามขยายผลจากนายมะยูโซะ มะยะเด็ง หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุและรับสารภาพทำหน้าที่เป็นคนดูต้นทาง รวมทั้งชัดทอดผู้ร่วมในการประชุมก่อนจะออกทำการก่อเหตุขั้นต้นร่วม 5 คน ประกอบด้วย นายสุไลมาน ดอเลาะ นายอายมาน กูโน นายแพนดี หะยีเตะ นายมารวาน มีทอ และนายยาการียา บาโง เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการสั่งการก่อเหตุในครั้งนี้ โดยการลงพื้นที่ของชุดต่างๆ ในครั้งนี้ ได้ทำการตรวจสอบทุกพื้นที่โดยรอบบริเวณที่ นายมะยูโซะ ให้ข้อมูลอย่างละเอียด โดยสามารถตรวจพบหลักฐานสำคัญเพิ่มอีก 2 รายการ จึงให้ชุดนิติวิทยาศาสตร์ตรวจเก็บดีเอ็นเอเพิ่ม เพื่อนำมาตรวจสอบใช้เป็นหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์สนับสนุนแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังจัดชุดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าเสริมการปฏิบัติงานของชุดคลี่คลายคดีเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดความโปร่งใสเป็นธรรมตามรูปการของคดีที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนยุติธรรมให้ญาติผู้ที่ถูกระบุว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุในครั้งนี้ได้อีกทางหนึ่ง
นายศรัณย์พงศ์ ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนใต้ (ศปพ.จชต) กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ กล่าวว่าการลงมาช่วยคลี่คลายปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้นั้น เป็นอีกแนวนโยบายหลักของดีเอสไอ มอบหมายแนวทางปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ในพื้นที่พิเศษ โดยเฉพาะกรณีเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.สายบุรีในครั้งนี้ นอกเหนือจากหน่วยงานหลัก 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอยังร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมกันลงมาช่วยตรวจสอบพิสูจน์ทราบและเก็บข้อมูลหลักฐานแวดล้อมต่างๆ เพิ่มเติมจากส่วนที่เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นส่วนของหลักฐานเพิ่มเติมจากการรับสารภาพ โดยการทำงานจะไม่ทับซ้อนกับข้อมูลหลักฐานวันเกิดเหตุ แต่เป็นการหาหลักฐานแวดล้อมจากการเชื่อมโยงเพิ่มกับการรับสารภาพนั้น ทำให้สามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลเหตุการณ์อย่างเป็นระบบขั้นตอน สิ่งสำคัญคือการเป็นสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการสนับสนุนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้กับพนักงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อเกิดความมั่นใจและเป็นหลักการทำงานให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยความโปร่งใส
พล.ต.จตุพรกล่าวว่า การนำตัวผู้ต้องสงสัยมาแถลงข่าวหลังรับสารภาพนั้นอยากให้สังคมได้รับรู้รับทราบและเข้าใจสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ ว่าทุกหน่วยต่างทำงานเต็มขีดความสามารถและขอบคุณประชาชนที่ต่างแจ้งข้อมูลข่าวสารมาจำนวนมาก จนนำไปสู่การควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาซักถามขยายผลและมีความคืบหน้าทางคดีภายในวันเดียว โดยทางคดีจากนี้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ ได้ชัดชุดสืบสวนสอบสวนเข้ามาดูแลคดีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้คดีมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขั้นต้นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวได้นั้นให้ความร่วมมืออย่างดี และนำชี้จุดต่างๆ ที่ใช้ในการกระทำผิดในครั้งนี้ ส่วนผู้ที่ถูกซัดทอดนั้นได้มีการจัดกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม รวมถึงกำลังทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะหลบหนีไปกบดาน ได้มีคำสั่งให้ติดตามอย่างใกล้ชิดตามเบาะแสจากการข่าวและจากที่พี่น้องประชาชนยังคงแจ้งเบาะแสอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำให้เข้าตรวจสอบในทุกจุดที่มีการแจ้งพบการเคลื่อนไหว
พล.ต.จตุพรกล่าวว่า อยากฝากถึงผู้ที่อาจไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กับกรณีการให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหา ผู้ต้องสงสัยกระทำผิดกฎหมาย โดย พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำให้ทุกหน่วยลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงผู้นำศาสนาช่วยประกาศทำความเข้าใจและขอความร่วมมือช่วยเป่าประกาศให้ทราบว่า หากพบบุคคลใดให้การช่วยเหลือต่างๆ แก่ผู้ร้ายนั้นผิดกฎหมายทั้งปรับและจำคุก หากกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะเกรงจะได้รับอันตรายก็ให้แจ้ง หรือส่งข่าวสารแกเจ้าหน้าที่ใกล้เคียง โดยทุกอย่างจะทำในทางลับและไม่อยากให้ต้องมารับโทษกับคนที่กระทำผิดกฎหมาย เพราะจะยิ่งสร้างแต่ความเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังนายมะยูโซะ มะยะเด็ง หนึ่งในผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ ทางชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สายบุรี ร่วมกำลัง 3 ฝ่าย ได้นำตัวไปทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่ต่างๆ ทั้งบนถนนสาย เจาะกือแย-สายบุรี ที่รับว่าเป็นจุดดูต้นทางและบ้านที่ใช้เป็นจุดนัดประชุม เพื่อนำมาประกอบหลักฐานเตรียมขอศาลออกหมายจับต่อไป
