จากกรณีที่ได้มีจัดงานแต่งงานมงคลสมรสอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ที่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 7 ต.สินปุน อ.เขาพนม จ.กระบี่ แต่เมื่อถึงวันงานทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธีแต่อย่างใด สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ฝ่ายเจ้าสาวและญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก ขณะที่พ่อแม่เจ้าสาวเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับทางฝ่ายเจ้าบ่าว เนื่องจากได้มีการลงทุน เช่าเต็นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เวที และจัดเตรียมอาหารเลี้ยงแขก ร่วมกว่า 3 แสนบาท
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 กันยายน นายสมพงศ์ อินศิริ อายุ 68 ปี และนางสมหมาย อินศิริ อายุ 56 ปี ได้พาบุตรสาวคือ นางสาวเอ อายุ 15 ปี เจ้าสาวม่ายขันหมาก ซึ่งตั้งครรภ์ประมาณ 5 เดือน ได้เดินทางเข้าแจ้งความ กับ ร.ต.อ.บุญส่ง ล่องวารี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อที่จะเอาผิดกับทางฝ่ายพ่อแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าว ให้ถึงที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้บุตรสาวเพียงคนเดียวต้องเสียใจแล้ว ยังทำให้ต้องเสียเวลาและเสียเงิน ในการเตรียมงานแต่งไปร่วมกว่า 3 แสนบาท เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.บุญส่ง ได้เชิญตัวนายสมพงศ์ และนางสมหมาย นางสาวเอเข้าไปสอบปากคำ ที่ห้องพนักงานสอบสวน โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังการสอบปากคำแต่อย่างใด
ขณะเดียวหันนางอำพร ชูแก้ว อายุ 50 ปี แม่ของฝ่ายเจ้าบ่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผ่านมาไม่ได้คิดที่จะเบี้ยวงานแต่งงาน ซึ่งในการเตรียมงานของฝ่ายเจ้าสาวก็ได้ให้เงินช่วยเหลือเตรียมงานไปจำนวน 2 หมื่นบาทด้วย แต่สาเหตุที่เจ้าบ่าวไม่ได้ไปเข้าพิธีมงคลสมรสกับเจ้าสาวเมื่อวานนั้นเนื่องจากเงินสินสอดไม่พอตามที่ฝ่ายเจ้าสาวต้องการ ประกอบกับทางพ่อเจ้าสาวยื่นคำขาดว่าถ้าเงินสินสอดไม่มีก็ไม่ต้องมา ทั้งนี้ ในวันไปสู่ขอนั้น ทางฝ่ายเจ้าสาวเรียกสินสอดมาเป็นเงิน 300,000 บาท ตนจึงบอกว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะแจ้งไปอีกที เพราะการที่จะหาเงินแสน ภายในระยะเวลา 2 เดือนนั้น มันยาก
นางอำพรกล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการจัดการหาฤกษ์หายามวันแต่งงานนั้น ทางฝ่ายเจ้าสาวจัดการเองทุกอย่าง แต่พอใกล้ถึงวันแต่ง ทางเราหาเงินได้แค่แสนเดียว ทางฝ่ายเจ้าสาวเลยลดลงมาให้เหลือ 150,000 บาท และพ่อเจ้าสาวก็ได้บอกมาเองว่า ถ้าสินสอดไม่ครบ งานยังคงจัดแต่ไม่เอาเจ้าบ่าว ทางเราจึงบอกว่า ถ้าไม่เอาเจ้าบ่าว ทางเราก็คงไม่ไป และทางฝ่ายเจ้าสาวไม่เคยบอกว่ารอถึงเที่ยงในวันงาน ขณะที่ตนก็ต้องรอทางญาติจะเดินทางมาจากภูเก็ต จะมาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ตนก็อยากให้ลูกชายไปร่วมงานมงคลสมรส เพื่อรักษาหน้าทั้งสองฝ่าย ทางเราเลยเดินทางมา แต่สุดท้ายเขาบอกเองว่าถึงมาก็ไม่ทันแล้ว พ่อแม่เจ้าสาวรอแค่ 10 โมง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยแจ้งมาเลยว่ารอแค่ 10 โมง ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอดูว่า ทางฝ่ายจะดำเนินการอย่างไร