เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2560 พระเมธ ทิพย์สมบัติ อายุ 83 ปี เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมคลองอารักษ์ หมู่ที่ 3 ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้ให้คนโทรศัพท์แจ้งไปยัง สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพรว่า มีวัยรุ่นนำศพเด็กทารก มาทิ้งไว้ในศาลาภายในสำนักปฏิบัติธรรม
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบพระเมธ เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 กันยายน 2560 มีชายวัยรุ่นไม่ทราบชื่อ อายุไม่เกิน 20 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสี ทะเบียน และยี่ห้อ มากับเพื่อนวัยรุ่นอีก 1 คน ก่อนนำลังกระดาษสีน้ำตาลมาตั้งไว้ในศาลาภายในสำนักปฏิบัติธรรม แล้วบอกกับตนว่า ขอให้ช่วยเผาหรือฝังศพเด็กทารกดังกล่าวให้ด้วย เมื่อสอบถามรายละเอียดวัยรุ่นคนดังกล่าวก็บอกว่า ศพทารกเป็นลูกของตนที่เกิดกับเมียใน รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร แต่เสียชีวิต โรงพยาบาลแห่งนั้นจึงมอบศพให้นำไปเผาหรือฝัง เมื่อนำไปยังวัดพระรักษ์ที่ใกล้กับบ้านที่ตนอยู่อาศัย แต่เจ้าอาวาสไม่รับทำให้ จึงต้องนำมายังสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ให้ดำเนินการ แต่ขอให้ดำเนินการวันที่ 30 กันยายน 2560 จากนั้นจึงขี่รถออกไป
พระเมธ กล่าวต่อไปว่า ต่อมาวันที่ 30 กันยายน 2560 หลังปฏิบัติภารกิจของสงฆ์เสร็จ ก็นั่งรอวัยรุ่นคนดังกล่าวจนค่ำ แต่วัยรุ่นที่นำศพทารกมาวางไว้กลับไม่โผล่มาให้เห็นเลย จึงให้ญาติโยมแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และเมื่อหน่วยกู้ภัยพะโต๊ะและตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบศพของทารกเป็นเพศชาย ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูอย่างดี ใบหน้าเขียวคล้ำ ความยาวลำตัว ประมาณ 50 เซนติเมตร อายุในครรภ์ประมาณ 8 เดือน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง จึงนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพะโต๊ะ และได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่เด็กที่คลอดที่โรงพยาบาลพะโต๊ะ
“อาตมาจำชายวัยรุ่นคนดังกล่าวไม่ได้ เนื่องจากอายุมากแล้ว แต่จำได้ว่า วัยรุ่นคนนั้นอ้างถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเท่านั้น และเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงอื่นๆ ว่า มีหญิงสาววัยรุ่นคนใดมาทำคลอดที่โรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตบ้าง จึงได้ฝากศพทารกไว้ในโลงศพติดแอร์ของหน่วยกู้ภัยหลังสวนเอาไว้ที่สำนักปฏิบัติธรรมก่อนดำเนินการต่อไป” พระเมธกล่าว
