นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงานสัมมนา เรื่อง “ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก กับทิศทางการลงทุนในปี 2561” ว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 23 ปี หรือทำสถิติใหม่ (นิวไฮ) มีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากการประกาศเลือกตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งการส่งออก การลงทุนภาครัฐ อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2561 อย่างไรก็ตามในช่วงที่ดัชนีหุ้นปรับขึ้นนี้ อยากให้นักลงทุนพิจารณาเรื่องปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นรายตัว และพิจารณาว่าจะได้รับประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจหรือไม่ เช่น การพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การส่งออก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมัน
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ จำกัด เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลประกาศโรดแมปการเลือกตั้งที่ชัดเจน เป็นสัญญาณที่ดี อย่างน้อยนักลงทุนรู้ว่าการทิศทางจะเป็นอย่างไร แม้ว่าอาจจะเลื่อนได้ก็ตาม และนอกจากเรื่องนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งต่างชาติจับตาว่าจะทำได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในโครงการอีอีซี การลงทุนอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น
“คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะเห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,780 จุดได้ไม่ยาก หลังจากนั้นดัชนีอาจจะปรับฐาน และเชื่อว่าในปี 2561 เศรษฐกิจจะดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งราคาน้ำมัน สัญญาณการฟื้นตัวของภาคการบริโภค การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค รวมถึงการปรับแก้กฎหมายที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ รวมถึงนโยบายการคลังที่เน้นการแก้ปัญหาระยะยาวมากขึ้น เช่น การปฏิรูปภาษี ล้วนเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้ดัชนีหุ้นทะลุ 2,000 จุดได้ไม่ยาก หรือดัชนีหุ้นปรับขึ้นประมาณ 10-15% ในปีหน้านี้” นายปริญญ์กล่าว
