นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) และอุปนายก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้ลงทุนสถาบันบางส่วน เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนในไตรมาส 4 ปี 2560 และแนวโน้มปี 2561 ว่า นักวิเคราะห์และผู้ลงทุนสถาบัน 79% มีความเห็นว่า ดัชนีหุ้นไทยไตรมาส 4 จะเคลื่อนไหวในลักษณะปรับขึ้น โดยให้กรอบดัชนีสูงสุดที่ 1,750 จุด โดยมีเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2560 ที่ 1,700 จุด ส่วนเป้าหมายดัชนีปี 2561 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 1,810 จุด โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้น ได้แก่ ปัจจัยทางการเมืองโดยเฉพาะแนวโน้มการเลือกตั้งในปีหน้า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ที่มีแนวโน้มดี จากความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับ รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และเงินทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ในตลาดทุนไทย
“ทั้งนี้ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาอีกประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดสะสมตั้งแต่ปี 2559 ถึงช่วงกลางปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 1.6-1.7 แสนล้านบาท” นางภรณีกล่าว
นางภรณีกล่าวว่า ผลสำรวจการคาดการณ์แนวโน้มตลาดทองคำ ผู้ตอบแบบสอบถาม 50% มอง่าตลาดทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง และคาดว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ย ณ สิ้นปีอยู่ที่ 20,129 บาท สวนทางกับตลาดหุ้น เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวดี ผู้ลงทุนนิยมลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
นายสมบัติ นราวุฒิชัย ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) และอุปนายก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า ผลการสำรวจการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนให้ความเห็นในด้านการเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยใน 3 ประเภทสินทรัพย์คือ หุ้นสามัญในประเทศ ตราสารหนี้ และทองคำ และลดสัดส่วนในหุ้นต่างประเทศ การถือครองเงินสดหรือเงินฝาก และประเภทอื่นๆ เช่น กองทุนน้ำมัน อสังหาฯ สำหรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสามัญในประเทศนั้น ยังคงมีน้ำหนักการลงทุนในพอร์ตที่มากที่สุด โดยแนะนำเพิ่มสัดส่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 42% เป็น 44%
